เปิด 7 บริษัทรายใหญ่ “อินเดีย” รับซื้อหมากไทยหมดที่ค้างสต๊อกอยู่ 50,000 ตัน มูลค่าประมาณ 25,000 ล้านบาท ระบุ “หมากไทย” ชาวอินเดียไม่รู้จัก รู้จักแต่หมาก “เมียนมา-อินโดนีเซีย” ชีหมากไทยจะเป็นอินเตอร์ในตลาดโลก อินเดีย เอเชียใต้ กลุ่มประเทศตะวันนออกกลาง
ดร.สมบัติ ชนะสิทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายชา โมฮัมหมัด ฟาริส (S.M. Farid) หอการค้า ตะวันออกเฉียงเหนือเฉียงเหนือของอินเดีย พร้อมคณะ ได้ร่วมกันหารือเรื่องการค้าหมาก และการส่งส่งออกไปยังต่างประเทศ ที่สวนภูมิชีวา ต.โคกศักดิ์ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ภายหลังที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและพบเกษตรกรพื้นที่ปลูกหมากตามพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว และก่อนนั้นได้มีการหารือเจรจาเกี่ยวกับเรื่องหมากมาร่วมกว่า 6 เดือนจนถึงผลึกเดินทางเข้าพบ ดร.สมบัติ ชนะสิทธิ์ ที่ปรึการัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อยืนยันในการรับซื้อหมากจาก จ.พัทลุง
นายฟาริส กล่าวว่า หมากไทยและหมาก จ.พัทลุง ได้มำกาตรวจสอบอย่างรอบคอบละเอียดแล้วว่าเป็นหมากที่มีคุณภาพดี จึงดำเนินการที่ทางบริษัทในประเทศอินเดียที่จะรับซื้อไม่จำกัดปริมาณ เพื่อส่งไปยังประเทศอินเดียแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อส่งออกไปยังตลาดกลุ่มประเทศเอเชียใต้ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
ทั้งนี้โดยบริษัทรายใหญ่แปรรูปหมากของประเทศอินเดีย จำนวน 7 บริษัท จะเป็นผู้รับซื้อไม่จำกัดปริมาณ เพราะกลุ่มประเทศดังกล่าวต่างใช้หมากจำนวนมากในพิธีต่าง ๆ ทั้งอินเดีย ปากีสถาน และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ทั้งเป็นของกินหลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะกินหลังรับประทาอาหารประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในประเทศอินเดียที่มีพลเมืองประมาณ 1,300 ล้านคน
นายฟาริส ยังกล่าวอีกว่า หมากไทยและโดยเฉพาะหมาก จ. พัทลุง คุณภาพดีมาก เหนือกว่าหมากประเทศอินโดนีเซีย และหมากประเทศเมียนมา ฯลฯ ต่อไปหมากไทยจะเป็นระดับสากลไปทั่วโลก
“ส่วนการรับซื้อหมากนั้นจะรับซื้อประมาณ 40-50 ตู้คอนเทนเนอร์ ประมาณตู้ละ 18,000 กก. ระยะเริ่ม เพราะที่ผ่านมาประมาณ 3 ปี ได้หยุดชะงักหมด จากสถานการณ์โควิด 19 ทั้งนี้จะรับซื้อไม่จำกัดปริมาณ และรับซื้อทั้ง 3 เกรด เกรดเอ เกรดบี และเกรดซี”
นายฟาริส กล่าวอีกว่า ส่วนหมากแห้งไทย ทีค้างสต๊อกอยู่ในประเทศไทยนั้น จะทำการเจรจากับบริษัทยักษ์ใหญ่ 7 บริษัทของประเทศอินเดียจะรับซื้อให้หมด แต่จะต้องทำรายงานรายละเอียด ข้อมูล หลักฐาน ฯลฯ ขึ้นมา 1 ฉบับ พร้อมทำการฟรีเซ้นท์หมากไทยให้กับ 7 บริษัทรับทราบรอบด้าน ซึ่งหมากดังกล่าวเมื่อ 7 บริษัทรับซื้อแล้ว ก็จะกระจายไปหลายประเทศทั้งในอินเดีย เอเชียใต้ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
“คนอินเดียไม่รู้จักหมากไทยมาก่อน เพิ่งมารู้จักในคราวนี้ คนอินเดียรู้จักหมากประเทศเมียนมา กับประเทศอินโดนีเซีย” นายฟาริส กล่าว
ทางด้าน ดร.สมับติ ชนะสิทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับราคาหมากแห้งทางไทนเสนอราคาประกันไปแล้ว แต่ขณะนี้กำลังรอผู้ประกอบการรับซื้อหมากอินเดีย แต่เดิมตั้งราคาประกันไว้ที่ 25 บาท / กก. สำหรับหมากแห้งที่ค้างสต๊อกอยู่ในประเทศไทยประมาณ 50,000 ตัน ทางกลุ่มบริษัทในประเทศอินเดียยืนยันว่าจะรับซื้อทั้งหมด โดยมีมูลค่าประมาณ 25,000 ล้านบาท.