Thursday, 18 April 2024 - 11 : 51 pm
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

พิษโควิดฉุดอสังหาฯอีอีซีกำลังซื้อทรุดหนัก

ธอส.ชี้อสังหาริมทรัพย์ 3 จังหวัดอีอีซียังชะลอยอดเหลือขายพุ่งกว่า 6.4 หมื่นหน่วย คาดทั้งปีก็ยังไม่กระเตื้อง

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ในพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ชลบุรี จ.ระยอง และฉะเชิงเทรา หรือพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย พบว่า ณ สิ้นปี 2563 มีจำนวนที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างเสนอขายจำนวนทั้งสิ้น 979 โครงการ จำนวน 75,362 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 254,832 ล้านบาท ลดลงจากช่วงครึ่งปีแรก -3.3% โดยมีโครงการที่เปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังเพียง 8,586 หน่วย แบ่งเป็นอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม 3,720 หน่วย และบ้านจัดสรร 4,866 หน่วย รวมมีหน่วยเหลือขายทั้งสิ้น 64,575 หน่วย มูลค่า 221,579 ล้านบาทลดลง 5.2%

ทั้งนี้ ในด้านการเคลื่อนไหวด้านการขายพบว่ามีหน่วยที่ขายได้ใหม่จำนวน 10,787 หน่วย โดยในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมมีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ประมาณ 2,794 หน่วย ในขณะที่โครงการบ้านจัดสรรขายได้ใหม่จำนวน 7,993 หน่วย แต่จำนวนการเปิดขายโครงการใหม่ทั้งในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม และโครงการบ้านจัดสรร หน่วยการเปิดตัวโครงการมีจำนวนต่างกันไม่มาก โดยคอนโดมิเนียมมีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 3,720 หน่วย ส่วนโครงการบ้านจัดสรรมีการเปิดขายโครงการใหม่ประมาณ 4,866 หน่วย

นายวิชัย กล่าวต่อว่า พื้นที่อีอีซี เข้ามามีบทบาทความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะ จ.ชลบุรี ถือว่ามีบทบาทความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากหากพิจารณาจากการขอใบอนุญาตจัดสรร พบว่ามีจำนวนโครงการคิดเป็น 8.3% ของประเทศ มีจำนวนหน่วยประมาณ 6.8% ของประเทศมีการขอใบอนุญาตปลูกสร้างแนวราบพื้นที่เท่ากับ 5.3% ของประเทศ มีจำนวนหน่วยประมาณ 5.7% ของประเทศ มีจำนวนการขอใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารชุดพื้นที่เท่ากับ 7.1% ของประเทศ และมีจำนวนหน่วยเท่ากับ 7.1% ของประเทศ โดยสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ จ.ชลบุรี มีจำนวนหน่วยเท่ากับ 8.2% ของประเทศ มูลค่าเท่ากับ 7.4% ของประเทศ และมีหน่วยคอนโดฯ ซึ่งถือครองโดยคนต่างชาติในแง่จำนวนหน่วยเฉลี่ย 3 ปีประมาณ 2.9% ของจำนวนการถือครองทั้งหมดที่เป็นชาวต่างชาติ

ส่วนทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย 3 จังหวัดในพื้นที่อีอีซี ในปี 2564 ประเมินว่าตลาดยังคงมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยกำลังซื้อที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลให้อัตราดูดซับหรือการขายโดยรวมลดลงเช่นเดียวกัน ทำให้สถานการณ์โดยรวมจึงยังคงอยู่ในช่วงชะลอตัว การลงทุนพัฒนาโครงการใหม่จึงต้องใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาในเชิงลึก เนื่องจากในบางประเภท บางกลุ่มราคา อัตราการขายยังค่อนข้างดี

© 2021 thairemark.com