สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เผยราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ เป็นผลจากวัฏจักรตามฤดูกาลและเศรษฐกิจการเลี้ยงสุกร ยืนยันไม่ใช่ความผิดปกติของตลาดหรือการฉวยโอกาสขึ้นราคา พร้อมย้ำหมูไทยมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ราคาหมูที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหน้าร้อนนี้ สาเหตุหลักมาจากวัฏจักรการผลิตสุกร ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมี 2 ปัจจัยสำคัญ คือ วัฏจักรฤดูกาลและวัฏจักรเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร
“ในช่วงฤดูร้อน หมูจะเจริญเติบโตช้าลงเพราะอากาศร้อนจัด หมูไม่ค่อยกินอาหาร ส่งผลให้เกษตรกรต้องเลี้ยงหมูนานขึ้นกว่าปกติ และยังต้องซื้อน้ำเข้าฟาร์ม ทำให้ต้นทุนจึงสูงขึ้น และปริมาณหมูที่เข้าสู่ตลาดลดลง ราคาจึงปรับตัวขึ้นตามกลไกปกติของอุปสงค์และอุปทาน” นายสิทธิพันธ์กล่าว
ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรยังเผชิญกับวัฏจักรเศรษฐกิจที่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ต้องขาดทุนต่อเนื่องหลายปี ก่อนจะมีกำไรในช่วงที่ตลาดขาดแคลนสุกร โดยเฉลี่ยผู้เลี้ยงหมูไทยจะอยู่ที่ขาดทุน 4 ปี มีกำไร 1 ปี ทั้งยังต้องเผชิญกับต้นทุนด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ผันผวน ต้นทุนการควบคุมโรคระบาดและมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังการระบาดของโรค ASF และโควิด-19 เกษตรกรต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดไม่ให้เกิดความเสี่ยงกับฟาร์มของตนเอง
จากข้อมูลเปรียบเทียบราคาหมูหน้าฟาร์มในภูมิภาคอาเซียน พบว่า ราคาหมูในไทยยังต่ำกว่าหลายประเทศ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 88 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่มาเลเซียอยู่ที่ 125 บาท เมียนมา 104 บาท เวียดนาม 98 บาท กัมพูชา 94 บาท และลาว 85 บาท
นายสิทธิพันธ์ ระบุเพิ่มเติมว่า ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกับภาครัฐบริหารจัดการผลผลิตสุกรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสมดุลตลาด ทั้งการปลดแม่พันธุ์สุกรและลูกสุกรขุน เพื่อให้จำนวนสุกรที่จะเข้าสู่ตลาดสอดคล้องกับความต้องในแต่ละช่วงเวลา
“หมูไทยมีคุณภาพและปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล ไม่ใช้สารต้องห้ามและไม่มีสารตกค้าง ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าเนื้อหมูยังเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล หากเข้าใจวัฏจักรการเลี้ยงหมูเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าราคาหมูในช่วงนี้ไม่ได้สูงเกินจริง แต่เป็นผลจากปัจจัยธรรมชาติและเศรษฐกิจการผลิตที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยราคาจะอ่อนตัวลงในช่วงหน้าฝน”
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ขอความร่วมมือจากผู้บริโภคให้เข้าใจกลไกตลาด และสนับสนุนการบริโภคเนื้อหมูไทย โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาตกต่ำ เพื่อให้เกษตรกรยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และรักษาเสถียรภาพอาหารของประเทศในระยะยาว
นอกจากนี้ ราคาเนื้อหมูในประเทศที่สูงขึ้น ยังเป็นแรงจูงใจให้มิจฉาชีพลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน จึงขอให้ผู้บริโภคช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องความผิดปกติ หากพบเห็นการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน หรือโรงงานชำแหละซากสัตว์ต้องสงสัย หรือช่องทางอื่นๆ ให้แจ้งต่อหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ กรมปศุสัตว์ หรือ สมาคมฯ ได้ เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้คนไทยได้รับเนื้อสัตว์คุณภาพดี ไม่มีสารปนเปื้อน เพื่อสุขอนามัยที่ดีของคนไทย