ขอนแก่นเปิดไฟนับแสนดวง รับนักท่องเที่ยวไทย-เทศ ฉลองเคาท์ดาวน์ปีใหม่ หลังอั้นมานานกว่า 4 ปีที่ไม่ได้จัดกิจกรรม ขณะที่นักท่องเที่ยวท้าลมหนาวถ่ายภาพคู่กระติบข้าวเหนียวยักษ์และไฟเรืองแสง ริม 2 ฝั่งถนนเนืองแน่น
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาลฯ และ พ.ต.ท.รัฐปิติ ประเสริฐสม สวญ.สทท.1 กก.1 บก.ทท.2 (ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น) ร่วมเปิดไฟนับแสนดวง ที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ยาวมาตาม ถ.ศรีจันทร์ ผ่านประตูเมืองมาจนถึงสี่แยก ตัดกับ ถ.มิตรภาพ และบริเวณภายในและโดยรอบประติมากรรมกระติบข้าวเหนียวยักษ์อย่างสวยงาม พร้อมทั้งพูดคุยสอบถามความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวในการประดับตกแต่งเมืองดังกล่าวที่ถือเป็นการมอบของขวัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากต่างพากันท้าลมหนาว มาเก็บภาพแห่งความประทับใจ และความสวยงามในการประดับไฟด้วยรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะรูปกล่องของขวัญ ตุ๊กตาหิมะ และจุดเช็คอินสุดชิคที่บริเวณด้านล่างกล่องข้าวเหนียวยักษ์ หรือกระติบยักษ์ที่มีการประดับตกแต่งไฟตัวอักษรอย่างสวยงาม
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า แม้ปีนี้เทศบาลฯจะไม่ได้จัดกิจกรรมสวนเรืองแสง จากภาวะงบประมาณที่จำกัด แต่ยังคงไว้ซึ่งความสุข สนุกสนานที่คนขอนแก่นรอให้การต้อนรับให้กับนักท่องเที่ยวที่ขณะนี้เริ่มเดินทางเข้ามาในพื้นที่แล้ว วันนี้จึงเป็นสันแรกของการเปิดไฟรับปีใหม่ ที่สื่อถึงความสุข ความสนุกสนานและกิจกรรมเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอยคอย หลังจากไม่ได้จัดกิจกรรมมานานกว่า 4 ปี
” นักท่องเที่ยวทยอยเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องแล้วและวันนี้เป็นวันแรกที่เทศบาลฯ ได้เปิดไฟแสงสีนับแสนดวงที่ประดับตกแต่งบริเวณภายในและโดยรอบศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ยาวมาตามถนนศรีจันทร์ ผ่านประตูเมืองมาสิ้นสุดที่จุดตัด ถ.มิตรภาพ และบริเวณภายในสวนกระติ๊บยักษ์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นในการจัดกิจกรรมในเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้นั้นมั่นใจว่ากิจกรรมต่างๆที่เทศบาล ได้กำหนดไว้ รวมถึงการจุดพลุ 888 นัดฉลองครบรอบ 88 ปีเทศบาลนครขอนแก่น การแสดงและการละเล่นต่าง จะคืนความสุข สร้างยิ้มและความสนุกสนานครื้นเครงให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมกิจกรรมท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยและการจัดการจราจรอย่างเข้มงวดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”