Tuesday, 22 October 2024 - 3 : 28 pm
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

‘เศรษฐา-ปูติน’ยกระดับสัมพันธ์ทุกมิติ 5 สินค้าเกษตรไทยโอกาสสดใสในรัสเซีย

การหารือทวิภาคีระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับ นายวลาดิมีร์ ปูติน (Mr. Vladimir Putin) ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ณ เรือนรับรองเตี้ยวหยูไถ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ย้ำเจตจำนงร่วมกันยกระดับความสัมพันธ์ พร้อมสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ร่วมกันในทุกมิติ

นายกรัฐมนตรีของไทย ยินดีที่ได้พบหารือกับประธานาธิบดีปูติน พร้อมแสดงเจตจำนงร่วมกันเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซียให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ซึ่งรัสเซียถือเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์กับไทยมายาวนาน ทั้งสองฝ่ายเพิ่งฉลองครบรอบ 125 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเมื่อปี 2565 โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรร่วมมือกันเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและเป็นรูปธรรม

ขณะที่ประธานาธิบดีปูติน ชื่นชมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยาวนานระหว่างไทยกับรัสเซีย พร้อมทั้งเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีมากขึ้น โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ในระดับประชาชนที่แน่นแฟ้นอย่างมาก และปี 2567 (ค.ศ. 2024) จะเป็นปีแห่งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทย-รัสเซีย นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวรัสเซียมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของไทย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ก็มีมติเพิ่มวันพำนักให้ชาวรัสเซียจาก 30 วันเป็น 90 วัน

ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นควรเพิ่มการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกันมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่ายรัสเซียส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกัน พร้อมทั้งเชิญชวนให้รัสเซียพิจารณาเพิ่มการลงทุนในไทย
แม้ภาพรวมตลาดส่งออกไทยไปรัสเซียในปี 2565 จะติดลบเนื่องจากวิกฤตสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” แต่ก็หดตัวเพียง 2.1% ดีกว่าที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้ในช่วงแรกของความขัดแย้งว่าจะหดตัวมากกว่า 10% ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจรัสเซียยังแข็งแกร่ง และสามารถรับมือกับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรได้มากกว่าที่คาดไว้

ขณะที่ในปี 2566 IMF คาดว่าเศรษฐกิจรัสเซียจะกลับมาเติบโตได้ 0.3% จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายตลาดจากการที่รัสเซียพยายามหาพันธมิตรทางการค้าใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนสินค้าจากมาตรการคว่ำบาตร และทดแทนสินค้าของชาติตะวันตกที่ออกไปจากตลาด

สำหรับสินค้าที่มีโอกาสส่งออกไปรัสเซีย เช่น ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์ เนื่องจากรัสเซียเริ่มขาดแคลนสินค้ากลุ่มนี้ ขณะที่สินค้าเกษตรและอาหารไทยมีศักยภาพมาก โดยในปี 2565 การส่งออกไปรัสเซียขยายตัวได้ดีกว่าตลาดโลกหลายรายการ เช่น ข้าว เพิ่ม 315.5% มันสำปะหลัง เพิ่ม 197.6% ผลไม้กระป๋อง เพิ่ม 33.0% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 44.0% เครื่องดื่ม เพิ่ม 37.4% อาหารสัตว์เลี้ยง เพิ่ม 23.5% สินค้าอุตสาหกรรมก็ขยายตัวดี เช่น เม็ดพลาสติก เพิ่ม 11.7% น้ำมันสำเร็จรูป เพิ่ม 44.7% เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ เพิ่ม 69.6% โดยประเมินว่าสินค้าเหล่านี้จะยังมีโอกาสขยายตัวได้เพิ่มขึ้นต่อไป

© 2021 thairemark.com