อาลัยรัก
….ขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของ
(นางทองศรี ศิลประสาท)
พี่สาวของพลอากาศตรี สำราญ ชมโท ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการศาสนา คุณธรรมจริยธรรม (วุฒิสภา)
นางทองศรี ศิลประสาท ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพรักของทุกคน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านได้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี
มีเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์และสังคม
การจากไปของท่าน นับเป็นการสูญเสียอันใหญ่หลวง
แต่คุณงามความดีที่ท่านได้สร้างไว้ จะยังคงอยู่ในความทรงจำ
และเป็นแรงบันดาลใจแก่ลูกหลานและผู้ที่รู้จักตลอดไป
ประวัติผู้วายชนม์
นางทองศรี ศิลประสาท เป็นบุตรของนางน้อย-นายเชื่อม ชมโท ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก #วงศ์ญาติบ้านไผ่
นางทองศรี ศิลประสาท เลขประจำตัวประชาชน 3251200750864 เกิด 19 กันยายน 2488 ณ บ้านเขาปูน ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ต่อมา พ.ศ.2501 ได้ย้ายภูมิลำเนาตามบิดามารดา อยู่บ้านเลขที่ ๓๖๙ หมู่ที่ ๒ ต.ท่าเกษม อ.สระแก้ว จ.สระแก้ว มีญาติพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน จำนวน ๑๓ คน คือ
๑.นางบุญเรือง กรรณเกลา (เสียชีวิตแล้ว)
๒.นางบุญมี คลังทอง
๓.นางทองศรี ศิลประสาท (ผู้วายชนม์)
๔.นางทองใส สากล (เสียชีวิตแล้ว)
๕.นางทองใบ สาสวด (เสียชีวิตแล้ว)
๖.นายอุทัย ชมโท (เสียชีวิตแล้ว)
๗.นางอุไร แม่นปืน (เสียชีวิตแล้ว)
๘.นายสะอาด ชมโท (เสียชีวิตแล้ว)
๙.นางทองคำ ชมโท
๑๐.พลอากาศตรี สำราญ ชมโท
๑๑.นายสหัสวรรษ ชมโท
๑๒.นางดารารัตน์ การะวี
๑๓.นางเสาวลักษณ์ ตระกูลแจะ
นางทองศรี ศิลประสาท ในวัยเยาว์มีอุปนิสัยร่าเริง โอบอ้อมอารีย์ เมื่อเติบโตก็เป็นกำลังสำคัญช่วยพ่อแม่ทำนา นอกจากนั้น เธอยังเป็นแม่ค้าหาบแร่ขายขนมจีน ที่มีความน่ารักสวยงาม
เมื่อเธอมีครอบครัวโดยสมรสกับนายสวง ศิลประสาท มีบุตร 5 คน ก็ยังมีจิตใจโอบอ้อมต่อบิดามารดา และอุดหนุนด้านการศึกษากับพี่น้อง อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อสามีประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เธอทำหน้าที่แม่เลี้ยงเดี่ยว ส่งลูกเรียนมีการศึกษาดีทุกคน
เธอมีจิตใจใฝ่กุศล โดยบริจาคที่ดินให้บ้านทับใหม่ก่อสร้างบ่อน้ำสาารณะ และมอบที่ดินสร้างวัดป่าใต้ ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
ในวาระสุดท้ายของชีวิตคุณแม่ทองศรี ศิลประสาท มีโรคประจำตัวต้องรักษาโดยการฟอกไต เป็นเวลานาน กว่า ๒๐ ปี เมื่อปลายเดือนเมษายน ๒๕๖๘ ประสบอุบัติเหตุล้มทำให้เป็นผู้ป่วยติดเตียง ระหว่างพักรักษาตัวที่บ้านลูกชายในจังหวัดปทุมธานี เกิดการติดเชื้อในกระแสโลหิตรุนแรง จนต้องเสียชีวิต ด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๐๗.๐๐ น. สิริรวมอายุ ๘๐ ปี
เจ้าภาพได้นำศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
กำหนดการ
ฌาปนกิจศพของนางทองศรี ศิลประสาท
ณ เมรุ ๒ วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568
ฌาปนกิจศพ
เวลา 10.00 น. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์
10:30 น. พระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์
เวลา 12.30 น. เชิญศพเวียนรอบเมรุ 3 รอบ และตั้งบนจิตกาธาน
เวลา 13.00 น. พิธีฌาปนกจศพ (เมรุ 2)
คำไว้อาลัย
“หนึ่งเดียวคือแม่”
โอ้พระคุณอุ่นเกล้าของเหล่าลูก รักพันผูกแนบแน่นแม้นเขาขุน
แม่จุติจากสวรรค์อนันตคุณ แผ่ใบบุญปกลูกปลูกชีพมา
จากชีวิตในท้องแม่ครองคุ้ม แม่ทนอุ้มท้องหนักเฝ้ารักษา
แม่แย้มยิ้มสุดซึ้งประหนึ่งยา ทิพย์โอชาชูเชิดลูกเกิดกาย
แม่คลอดลูกระโหยอ่อนนอนระริก แม่ยังพลิกกายมาแววตาฉาย
ประคองลูกเอมอิ่มหน้ายิ้มพราย เพราะสมหมายได้ลูกปลูกเผ่าพงศ์
วัยลูกเล็กซุกซนแม่บ่นว่า ด้วยเมตตามุ่งหมายให้สูงส่ง
เพื่อเป็นศรีชูเชิดเทิดวานวงศ์ ได้ธำรงวงศ์ตระกูลด้วยบุญญา
วัยเติบใหญ่ใจแม่ยิ่งแน่นัก แม่ยังรักยังหวงยังห่วงหา
ลูกอยู่ไหนใจแม่แผ่เมตตา ข้ามขอบฟ้าฝากลูกอยู่ทุกวัน
สุดแผ่นดินแผ่นฟ้ามหาสมุทร มิอาจฉุดรักแม่ให้แปรผัน
อมตะความรักประจักษ์ครัน คือมิ่งขวัญ “รักของแม่” แต่หนึ่งเดียว
วาระที่ชีวิตแม่ปลิดปลด เหมือนสิ้นหมดสิ้นแม่จะแลเหลียว
ดั่งสมุทรหยุดครืนสิ้นคลื่นเกลียว โลกห่อเหี่ยวสิ้นแสงแห่งสุรีย์
เชิญวิญญาณแม่น้อยขึ้นลอยลิบ สถิตทิพย์สถานวิมานที่
สรวงสวรรค์เทพธิดาพาเปรมปรีด์ ตลอดจีรกาลนิรันดร์ เทอญ ๚
#คำลาอาลัย
โอ้ชีวิตเกิดมาในหล้าโลก สุขกับโศกคลุกเคล้าให้เราเห็น
จากยามเช้าถึงสายทั้งบ่ายเย็น คืนไม่เว้นเกิดแก่และเจ็บตาย
ไม่นึกเลยคราวนี้ว่าชีวิต “แม่ศรี” ปลิดชีพปลงลงสลาย
ทิ้งญาติมิตรจากไกลไปเดียวดาย โอ้ใจหายคนอยู่หลังต่างอาลัย
“แม่ทองศรี” ชีวิตด่วนปลิดปลด ญาติกำสรดใจแท้สุดแลเหลียว
ไม่เหมือนเก่าเหล่าญาติมาขาดเกลียว ดั่งโลกเหี่ยวสิ้นแรงแสงสุรีย์
ทั้งสายลมแสงจันทร์ก็พลันลับ นกเคยจับแมกไม้มาหายหนี
เสียงจักจั่นเรไรก็ไม่มี เหลือแต่เสียงมโหรีปี่ชะวา
วิเวกแว่วโหยหวนครวญเพลงโศก กลางแก่งโกรกชลนัยน์ไหลนองหน้า
มวลลูกหลานเชื้อชาติญาติกา ทั้งซ้ายขวาหน้าหลังนั่งอาดูร
บัดนี้หยุดพักผ่อนสอนสงบ ลมหายใจมาจบลงสิ้นสูญ
ร่าง“แม่ศรี”เผาไหม้ในกองกูณฑ์ ถ่านเถ้ามูลลอยส่งลงวารี
น้อมธูปเทียนส่องทางพร่างพราวฟ้า พร้อมบุบผาพวงมาลัยสดใสสี
คล้องวิญญาณบริสุทธิ์ดุจมณี เชิญสู่ที่สรวงสวรรค์วิมานทิพย์๚