“เชียงใหม่” ขึ้นอันดับ 2 ของโลก เมืองที่คุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก จมฝุ่นพิษ PM 2.5 ทั้ง 25 อำเภอ สูงสุด อ.สันป่าตอง 116 มคก./ลบ.ม. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ประชาชนมั่นใจ โรงพยาบาลพร้อมรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในช่วงฝุ่น PM 2.5
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 จากการตรวจสอบคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา พบว่าค่าฝุ่นควันพิษได้พุ่งสูงโดยเฉพาะในตัวเมืองเชียงใหม่ (ซึ่งเป็นแอ่งกระทะ) ไม่มีลมที่เข้ามาช่วยพัดอากาศไม่ยกตัว จากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ผ่านทางแอปพลิเคชัน เช็คฝุ่น ระบบติดตาม PM 2.5 เวลา 06.00 น. ของวันที่ 23 มีนาคม 2568 จำนวน 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นสีแดง 25 อำเภอ มีค่าตั้งแต่ 82.2 – 116.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วน 5 อันดับสูงสุด พบมากที่สุดที่อำเภอสันป่าตอง วัดได้ 116.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อันดับ 2 อำเภอหางดง วัดได้ 111.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อันดับ 3 อำเภอสารภี วัดได้ 110.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อันดับ 4 อำเภอกัลยาณิวัฒนา วัดได้ 109.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอันดับ 5 อำเภอดอยหล่อ วัดได้ 107.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ล่าสุดเวลา 08.20 น. ตามเวลาแบบเรียลไทม์ จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นอันดับ 2 ของโลกเมืองที่คุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก ข้อมูลจากการตรวจวัดดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย ผ่านเว็บไซต์ iqair.com พบค่า US AQI แบบเรียลไทม์วัดได้ 185 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นสีแดง และมลพิษทางอากาศ PM 2.5 ในเทศบาลนครเชียงใหม่ วัดได้ 104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ความเข้มข้น PM 2.5 ขณะนี้เป็น 20.8 เท่าของค่าแนวทาง PM 2.5 ประจำปีขององค์การอนามัยโลก มีผลกระทบต่อทุกคน หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายนอกบ้าน ปิดหน้าต่างของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศภายนอกบ้านที่สกปรก สวมหน้ากากภายนอกบ้านและเปิดเครื่องฟอกอากาศ
ด้านนายแพทย์วรัญญู จำนงประสาทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ “เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ” โดยผู้ป่วยกรณีฉุกเฉินวิกฤต สามารถเข้ารับบริการได้ทุกโรงพยาบาลฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับกรณีเจ็บป่วยปกติ สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาของท่าน ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โดยได้บูรณาการกับทุกโรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุข เพื่อให้สามารถรักษาและส่งต่อผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด”
ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ยังแนะนำให้ประชาชนทั่วไปที่อาจได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพในระยะยาว และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจกระตุ้นให้โรคเกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ควรดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงที่โล่งแจ้ง และหากมีอาการผิดปกติต่าง ๆ ขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือเข้ารับการตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน