รอง ผอ. รพ. นพรัตน์ ชี้ Social Telecare ช่วยประสานงานวิเคราะห์รวดเร็วบูรณาการร่วมกับระบบดูแลสุขภาพ ขณะที่ “ศ.สค.ร. ระพีพรรณ” หวังเชื่อมข้อมูลกองสุขภาพดิจิทัลของกระทรวงสาธารณสุข และ หมอพร้อม
นายแพทย์ปิยชาติ สุทธินาค รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี กล่าวถึงโครงการพัฒนาและเสริมสมรรถนะกลไกและเครือข่ายการดูแลทางสังคม กลุ่มผู้ป่วยเบาหวานของนักสังคมสงเคราะห์และสหวิชาชีพเพื่อสนับสนุนระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ และขยายผลการทำงานในระดับพื้นที่ โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีว่า การดำเนินโครงการที่มีระบบ Social Telecare เป็นระบบที่นำมาใช้ในงานสังคมสงเคราะห์เพื่อบูรณาการร่วมกับระบบดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องได้รับความช่วยเหลือทางสังคม เช่น กลุ่มเปราะบาง และ กลุ่มผู้สูงอายุ
ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข 2 ด้าน คือ การดูแลไม่ใช่แค่อาการป่วยแต่ดูแลไปถึงสุขภาพ เช่น การรักษาโรคเบาหวานที่ไม่ใช่แค่กินยาควบคุมแต่มีหลายมิติในการคุมน้ำตาล เรื่องการดูแลที่บ้านและชุมชนจึงมีส่วนในการรักษา และการดูแลในมิติบ้านและชุมชน ที่จะเข้ามามีบาทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพ โดยระบบ Social Telecare จะสามารถนำมาช่วยได้ 3 ประเด็นคือ เป็นเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้การทำงานรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นเครื่องมือประสานงาน และเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ศาสตราจารย์ สค.ร. ระพีพรรณ คำหอม หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า โรงพยาบาลนพรัตนราชธานีถือเป็นโรงพยาบาลต้นแบบที่น่าสนใจคือการเก็บตัวอย่างของโรงพยาบาลสามารถตอบโจทย์ได้ เนื่องจากทำงานร่วมกับผู้ป่วยเบาหวาน คือ กลุ่ม NCD ทำให้นักสังคมสงเคราะห์ทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับพื้นที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และ อสส. ได้อย่างเต็มที่ จึงสามารถติดตามผู้ป่วยเข้าสู่ระบบได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้นโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เป็น 1 ใน 2 โรงพยาบาลของกรมการแพทย์ที่ร่วมทดลองโครงการ Social Telecare ที่คาดหวังว่าในอนาคตโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับโรงพยาบาบาลที่สนใจเพื่อขยายผลการทำงานต่อไป ขณะเดียวกันงานชิ้นนี้จะสามารถเปลี่ยนบทบาทของตนเองจากการทำงานเชิงสงเคราะห์เป็นการทำงานเชิงข้อมูลจากการใช้ Social Telecare ก่อให้เกิดการสร้างรายได้ของโรงพยาบาล
เช่น เมื่อนักสังคมสงเคราะห์ส่งข้อมูลเข้าระบบ Social Telecare จะทำให้เกิดค่าบริการโรงพยาบาลจะสามารถนำเงินมาบริหารจัดการดูแลผู้ป่วยให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นสำหรับการพัฒนาต่อในอนาคตนั้นคาดหวังว่าจะสามารถเชื่อมข้อมูลเข้ากองสุขภาพดิจิทัลของกระทรวงสาธารณสุข (Buddy Care) และ หมอพร้อมได้ต่อไป