นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะกรรมการการแรงงาน ได้มีการประชุมครั้งที่ 55 มีการพิจารณาเรื่องการประกอบอาชีพสงวนในประเทศไทย และการไม่ได้รับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ของชาวต่างชาติในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสองสอน สืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับสถานการณ์แรงงานในพื้นที่และการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว เมื่อวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 2568 ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ผ่านมา พบว่า มีคนต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย มีการกระทำการละเมิดกฎหมาย อาทิ การเปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ โฮมสเตย์
และมีการเล่นดนตรีเสียงดัง สอนโยคะ ตัดผมซึ่งเป็นอาชีพสงวนของคนไทย และมีการเปิดกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต และบางส่วนใช้ชื่อคนไทยเป็นเจ้าของกิจการ (Norminee) เป็นต้น ดังนั้น คณะกรรมาธิการจึงได้เชิญผู้แทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา และป้องกันพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก
สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร
จากการชี้แจงของหน่วยงานทั้ง 3 หน่วยงานที่คณะกรรมาธิการการแรงงานเชิญมาให้ข้อมูลนั้น พบว่า หน่วยงาน กอ.รมน. เป็นหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ทำหน้าที่ในการประสานงาน แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จากข้อเท็จจริงของสื่อมวลชนมีมูลความจริงที่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งทาง กอ.รมน. ได้สั่งการไปยังพื้นที่หน่วยปฏิบัติให้ตรวจสอบ อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นการเข้าไปกำกับดูแลเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน กอ.รมน. ได้มีความพร้อมในการประสานงานตรวจสอบในทุกเรื่องที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ด้านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแล การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว มิให้เอาเปรียบคนไทย ซึ่งคณะกรรมาธิการได้กำชับให้ติดตามเกี่ยวกับการถือครองธุรกิจของคนต่างด้าวใน จังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัดเชียงใหม่
และที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นต้น ว่ามีการจดทะเบียนการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวมีมากน้อยเพียงใด และเป็นไปตามที่กฎหมายหรือไม่ ด้าน กรมสรรพากร ได้ให้ข้อมูลในการจัดภาษีจากผู้การประกอบการธุรกิจของคนต่างด้าว การติดตามและการเรียกเก็บภาษีเงินได้จากสินค้าและบริการตามอัตราปกติ พร้อมทั้งการตรวจสอบเส้นทางการเสียภาษีจะเกิดขึ้นเมื่อมีการค้างชำระภาษี ซึ่งจะมีหนังสือทวงถามก่อนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน กรณีผู้ประกอบการคนต่างด้าวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่าการประกอบธุรกิจมีการถือครองโดยถูกต้อง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจร่วมด้านโรงแรม จึงใช้วิธีเดินสำรวจเลือกพื้นที่เป้าหมายพบว่าได้เข้าระบบภาษีแล้ว ทั้งนี้ มีการตั้งทีมประกอบด้วย 6 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเพื่อลงพื้นที่สำรวจในรายจังหวัด
“คณะกรรมาธิการฯ ได้รับทราบข้อมูลการดำเนินงานจากหน่วยงานที่เชิญให้ข้อมูลทั้งหมดและ และจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่ออุดช่องว่าง มิให้เกิดปัญหาขึ้นอีก”
