Monday, 14 October 2024 - 1 : 25 pm
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

UNFPA ผนึกเครือข่ายร่วมยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ

UNFPA ผนึกเครือข่ายเดินหน้าจัดกิจกรรม A SAFE JOURNEY WITH HER (16 Days of Activism Against Gender-Based Violence) แสดงจุดยืนและรวมพลังการเริ่มต้นของกิจกรรม 16 วันแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศทุกรูปแบบในประเทศไทย

นายเพียว สมิธ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ พร้อมด้วย นางกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย และ ดร. โอซา ทอคิลส์สัน ผู้อำนวยการ กองทุนประชากรแห่งสหประชาติประจำประเทศไทย ร่วมกิจกรรม A SAFE JOURNEY WITH HER (16 Days of Activism Against Gender-Based Violence) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานสำคัญเข้าร่วม อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฯพณฯ นายแพทริก เฮมเมอร์ เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์ก ฯพณฯ นางซีบีย์ เดอ การ์ทีเย ดีฟว์ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียม ฯพณฯ นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อร่วมกันแสดงจุดยืนและรวมพลังการเริ่มต้นของกิจกรรม 16 วันแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศทุกรูปแบบ ณ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)

นายเพียว สมิธ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (Mr. Pio Smith, Regional Director, UNFPA Asia-Pacific) กล่าวว่า งาน A SAFE JOURNEY WITH HER ในครั้งนี้เป็นการจัดงานร่วมกันของหน่วยงานสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ องค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ สหประชาชาติในประเทศไทย สถานทูตเบลเยียม สถานทูตเนเธอร์แลนด์ และสถานทูตลักเซมเบิร์ก เพื่อร่วมแสดงจุดยืนและรวมพลังการเริ่มต้นของกิจกรรม 16 วันแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ (16 Days of Activism Against Gender-Based Violence) ในประเทศไทย โดยกิจกรรมนี้เป็นการรณรงค์ที่นำโดยภาคประชาสังคมและประชาคมระหว่างประเทศซึ่งจัดขึ้นทุกปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงสากล (International Day for the Elimination of Violence against Women) และสิ้นสุดลงวันที่ 10 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล โดนองค์การสหประชาชาติได้เรียกร้องให้รัฐบาล ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม เพิ่มความตระหนักรู้ กระตุ้นความพยายามในการรณรงค์ และแบ่งปันความรู้และนวัตกรรมเพื่อยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศทุกรูปแบบ

“กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมภายใต้โครงการต่างๆ เพื่อนำไปสู่การยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเพศใด วัยใดก็ตาม ทั้งนี้ การยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศทุกรูปแบบ ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของผู้หญิงหรือเด็กผู้หญิงเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของทุกๆคนในสังคม เพราะความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยเช่นกัน โดยกิจกรรม A SAFE JOURNEY WITH HER ครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับเหยื่อผู้เผชิญกับความรุนแรงที่เกิดจากเหตุแห่งเพศ และกลุ่มผู้ที่อุทิศชีวิตในการป้องกัน ตอบสนอง และช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กหญิงซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงนี้ ตลอดจนถึงเน้นย้ำถึงความหลากหลายของการบริการสังคมที่มีในประเทศไทยสำหรับผู้หญิงและเด็กหญิงที่ได้รับผลกระทบ และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้และการเข้าถึงของทุกคน” นายเพียว สมิธกล่าวย้ำ

ทั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ นี้ ทัวร์ปั่นจักรยานที่เป็นมิตรกับครอบครัว นำโดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมสร้างและสนับสนุนการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กหญิง นิทรรศการภาพกลางแจ้ง ที่ประกอบด้วยภาพถ่ายบุคคลจำนวน 20 ภาพที่มาพร้อมกับเรื่องราวจากผู้เผชิญความรุนแรง และกลุ่มผู้ทำงานต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ และปาฐกถาพิเศษ โดย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่าด้วยนโยบายและลำดับความสำคัญของประเทศไทยในการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กหญิง และการเสวนาผ่านเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างผู้แทนภาครัฐ ภาคประชาสังคม และผู้แทนเยาวชนเกี่ยวกับความท้าทาย และโอกาสในปัจจุบัน

โดยระหว่างการเสวนา นายอนุกูลกล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบความรุนแรงที่เกิดจากเหตุแห่งเพศในประเทศไทย สามารถโทรแจ้งสายด่วนหมายเลข 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการให้คำแนะนำปรึกษารับเรื่องราวร้องทุกข์แก่ประชาชนผู้ประสบปัญหาสังคมอย่างครอบคลุมทุก พื้นที่โดยไม่เลือกปฏิบัติ โดยศูนย์ช่วยเหลือสังคมนี้ ให้บริการและสนับสนุนโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และภาคีเครือข่ายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในการให้บริการอย่างบูรณาการ

© 2021 thairemark.com