งานประชุมของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (Future Investment Initiative หรือ FII) ครั้งที่ 7 ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 ตุลาคม 2566 ในกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย จะเป็นการประชุมพิเศษของผู้นำระดับโลก ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม นักการเงิน นวัตกร และผู้กำหนดนโยบาย การประชุมครั้งนี้มีธีมว่า “เข็มทิศใหม่” (The New Compass) โดยจะมุ่งแก้ปัญหาความท้าทายเร่งด่วนระดับโลกในขอบเขตด้านสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี
สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคตเป็นผู้ผลักดันการอภิปรายที่สำคัญเกี่ยวกับความท้าทายทางเศรษฐกิจมหภาคที่สังคมทั่วโลกเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ การประชุมจะกล่าวถึงประเด็นสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บทบาทของรัฐบาล และศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การศึกษา และการดูแลสุขภาพ เพื่อสร้างโลกที่ยุติธรรมยิ่งขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น และเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ให้เป็นที่ที่มนุษยชาติเจริญเติบโตต่อไป
การอภิปรายเปิดงานมีขึ้นโดยคณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้พลิกสถานการณ์ และจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้เข้าร่วมที่มีชื่อเสียงได้แก่ ฯพณฯ ยาซีร์ อัล รูไมยาน (H.E. Yasir Al-Rumayyan) ผู้ว่าการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) และประธานสถาบัน FII, อาเจย์ บังกา (Ajay Banga) ประธานธนาคารโลก พร้อมด้วยบุคคลผู้มีอิทธิพล เช่น เดวิด รูเบนสไตน์ (David Rubenstein) จากคาร์ไลล์ (Carlyle), เรย์ เดลิโอ (Ray Dalio) จากบริดจ์วอเตอร์ แอสโซซิเอตส์ (Bridgewater Associates), เจมี ไดมอน (Jamie Dimon) จากธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค (JP Morgan Chase & Co), ลาร์รี ฟิงก์ (Larry Fink) จากแบล็กร็อก (BlackRock), เจน เฟรเซอร์ (Jane Fraser) จากซิตี้ (Citi), ดร. ปาทริซ มอตเซเป (Dr. Patrice Motsepe) จากแอฟริกัน เรนโบว์ มิเนอรอลส์ (African Rainbow Minerals), โนเอล ควินน์ (Noel Quinn) จากเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ (HSBC Holdings), นีล เชน (Neil Shen) จากซีคัวญา แคปิตอล (Sequoia Capital), เดวิด โซโลมอน (David Solomon) จากโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs), ชีมารา วิครามานายาเคอ (Shemara Wikramanayake) จากแมคควารี กรุ๊ป (Macquarie Group), มูเกซ อัมบานี (Mukesh Ambani) จากรีไลแอนซ์ อินดัสทรีส์ (Reliance Industries) และบิล วินเทอร์ส (Bill Winters) จากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) พร้อมด้วยท่านอื่น ๆ อีกมากมาย
การประชุมนี้มีผู้เข้าร่วมกว่าห้าพันคน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำทางด้านการเงิน การกำหนดนโยบาย และเทคโนโลยี การประชุมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระดับโลก โดยผู้นำจากเอเชีย ยุโรป อเมริกาใต้ และแอฟริกาจะหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอำนาจและอิทธิพล พร้อมเน้นเรื่องความจำเป็นของความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อจัดการกับความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดในโลก
ผู้นำด้านเทคโนโลยีจากทั่วโลก รวมถึงผู้ก่อตั้ง ซีอีโอ นักธุรกิจเงินร่วมลงทุน และนักลงทุน จะพิจารณาถึงการนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดมาใช้เพื่อสิ่งที่ดีกว่าได้อย่างไร การประชุมจะเจาะลึกหัวข้อต่าง ๆ เช่น เอไอ การสำรวจอวกาศ เทคโนโลยีสะอาด เทคโนโลยีด้านสุขภาพ ยานพาหนะไฟฟ้า หุ่นยนต์ เทคโนโลยีไลดาร์ (LIDAR) เทคโนโลยีชีวภาพ การมีอายุยืนยาว ลัทธิพ้นมนุษย์ (transhumanism) อีสปอร์ต แอฟริกาเทค (Africatech) นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีอาหาร และเมืองอัจฉริยะ การอภิปรายจะมุ่งเน้นไปที่การลดความเสี่ยง และการรับรองว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำหน้าที่เป็นพลังเชิงบวก ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ลดอันตราย และรับประกันการเข้าถึงที่เท่าเทียมกัน
การประชุมสุดยอดเอไอ (AI Summit) จะจัดควบคู่ไปกับการประชุมในครั้งนี้ โดยจะเจาะลึกเรื่องนวัตกรรมเจเนอเรทีฟเอไอ (generative AI) และจะกล่าวถึงข้อพิจารณาทางกฎหมายและประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่การบริหารความเสี่ยงไปจนถึงความมั่นคงของชาติ
ฯพณฯ ยาซีร์ อัล รูไมยาน ผู้ว่าการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะและประธานสถาบัน FII กล่าวว่า “ในขณะที่เราจัดการประชุมผู้นำโลกในช่วงเวลาวิกฤติแห่งประวัติศาสตร์ โลก เศรษฐกิจโลก และสังคมต้องเผชิญกับความท้าทายที่มาบรรจบกัน รวมถึงเสถียรภาพและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก สิ่งแวดล้อม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด ที่รวมถึงเจเนอเรทีฟเอไอ การศึกษา และสุขภาพ โดยการอภิปรายตามวาระการประชุมนี้จะช่วยกำหนดอนาคตของมนุษยชาติ”
คุณริชาร์ด อัตเทียส (Richard Attias) ซีอีโอของสถาบัน FII เน้นย้ำว่า “ธีมของงาน FII7 คือ ‘เข็มทิศใหม่’ ทำหน้าที่เป็นแนวทางในการจับภาพแก่นแท้ของโลกใหม่ ที่กำลังค้นพบทิศทางในขอบเขตของการลงทุนอีกครั้ง นอกจากนี้เรายังจะพูดคุยเกี่ยวกับลำดับความสำคัญของพลเมืองซึ่งควรเป็นแนวทางในกลยุทธ์ของเรา ผมแทบรอไม่ไหวที่จะต้อนรับชุมชนนักสำรวจของเรา”