นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้ปี 2566 เป็น “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” และเริ่มกิจกรรมมาตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยเป็นนโยบายมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง และมอบเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับผู้สูงอายุ ให้ได้รับบริการด้านสุขภาพที่จำเป็นอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม ครอบคลุมและทั่วถึง ทั้งทางกายและจิตใจ โดยให้บริการการคัดกรองสุขภาพ ด้วยระบบ SMART อสม. และ Blue Book Application ผ่านเจ้าหน้าที่ อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และโรงพยาบาลทุกแห่งในสังกั
ทั้งนี้ ตั้งเป้าการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ จำนวน 10 ล้านคน ทั่วประเทศผ่านแบบคัดกรองความถดถอย 9 ด้าน โดย อสม. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้แก่ ความคิดความจำ การเคลื่อนไหวร่างกาย การขาดสารอาหาร การมองเห็น การได้ยิน การกลั้นปัสสาวะ ภาวะซึมเศร้าและความเสี่ยงฆ่าตัวตาย การปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และสุขภาพช่องปาก นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายการจัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาล 901 แห่ง ของกระทรวงสาธารณสุข และการมอบวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นให้แก่ผู้สูงอายุ ได้แก่ แว่นสายตา 500,000 ชิ้น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 5 ล้านชิ้น ฟันเทียม 50,000 ราย และรากฟันเทียมสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการใส่ฟันเทียม 7,200 ราย
“กระทรวงสาธารณสุข ยังคงดำเนินมาตรการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมาย “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง” โดยในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อน “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” มีการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุไปแล้ว 5 ล้านคน จัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุเพื่อการดูแลรักษาสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ 586 แห่ง พร้อมทั้งมอบวัสดุอุปกรณ์ตามความจำเป็นสำหรับการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ ได้แก่ แว่นสายตากว่า 5 หมื่นชิ้น ฟันเทียมกว่า 4 หมื่นราย และผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 13 ล้านชิ้น แต่อย่างไรก็ตามยังมีผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งยังไม่ได้รับบริการจากมาตรการนี้ ดังนั้นผู้สูงอายุที่ต้องการเข้ารับบริการคัดกรองสุขภาพ รักษาโรคในคลินิกผู้สูงอายุ และรับวัสดุอุปกรณ์ตามความจำเป็น สามารถติดต่อสอบถาม และใช้บริการได้ที่โรงพยาบาลและหน่วยบริการทุกแห่งของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดปี 2566 นี้” ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าว