เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 18 มกราคม 2566 ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำข้าราชการตุลาการ ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนเข้าร่วมประกอบพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2566 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่กอบกู้เอกราชให้ชาติไทย โดยเฉพาะวีรกรรมที่ทรงเป็นที่จดจำของปวงชนชาวไทย ที่ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาแห่งพม่า จนเป็นที่เลื่องลือมาจนถึงปัจจุบันนี้
วันยุทธหัตถีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เกิดขึ้นจากสงครามยุทธหัตถีในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อปี 2135 ในครั้งนั้น พระเจ้านันทบุเรงได้ให้พระมหาอุปราชายกทัพใหญ่มาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงทราบข่าว จึงยกทัพหลวงไปตั้งรับที่หนองสาหร่าย ซึ่งระหว่างที่การรบกำลังดำเนินอยู่นั้น ช้างพระที่นั่งของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระเอกาทศรถ ก็ได้ไล่ล่าศัตรูไปจนออกนอกเขตแดน จนทำให้ทั้งสองพระองค์ตกไปอยู่ในวงล้อมของศัตรูโดยไม่รู้ตัว แต่ถึงแม้จะอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ พระองค์ก็มีพระสติ ไม่หวั่นไหว และทรงแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วว่า ทางที่จะรอดได้มีเพียงทางเดียวเท่านั้น คือ เชิญพระมหาอุปราชาเสด็จมาทำยุทธหัตถี และท้ายที่สุดพระองค์สามารถกระทำยุทธหัตถี ได้รับชัยชนะอย่างสมพระเกียรติ และนับตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีกองทัพใดกล้ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอีกเลย ทำให้ในสมัยนั้น ไทยได้ขยายอาณาเขตไปอย่างกว้างขวางกว่าสมัยใด ๆ
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า เนื่องในวันประวัติศาสตร์สำคัญของชาติไทย ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงได้รับชัยชนะ จากการทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย และทรงสถาปนาความเข้มแข็ง มั่นคง แก่ประเทศไทยในอดีตกาล อันนำมาซึ่งความสงบสุข และเกียรติภูมิของราชอาณาจักรไทยถึงกาลปัจจุบัน การทรงกระทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ อนุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระวีรกรรมครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย จนเป็นภาพลักษณ์ของความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของชาวไทย ที่มีความสมัครสมาน สามัคคี เสียสละ ต่อสู้เพื่อรักษาเอกราชของชาติไทย เป็นแบบอย่างให้ชนรุ่นหลังได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
สำหรับวันที่ 18 มกราคมของทุกปี ได้กำหนดใหม่ให้เป็น “วันยุทธหัตถี” และเป็นวันรัฐพิธี แทนวันที่25 มกราคมของทุกปี โดยให้มีการวางพานพุ่มสักการะ แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ การที่มีการเปลี่ยนแปลงวันทั้งสองดังกล่าวด้วยว่า เป็นการนับวันทางสุริยคติ ซึ่งคนปัจจุบันคุ้นชิน จำได้ง่าย และมีความเหมาะสมมากกว่า