นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีที่จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่จะมีอนาคตสดใสเป็นดาวรุ่ง, กลุ่มธุรกิจที่ กลับมาฟื้นตัว และกลุ่มธุรกิจที่ต้องเฝ้าระวังในปี 2566 ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งที่ได้รับอานิสงส์จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ได้แก่ ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ ร้านค้าโชห่วย ธุรกิจจัดงานแข่งขัน หรืออีเวนต์กีฬา เช่น งานวิ่ง งานแข่งจักรยาน มวย ฯลฯ
“ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์จะเติบโตต่อเนื่องจากผลกระทบโควิด-19 ที่ทำให้ประชาชนคุ้นเคย กับแพลตฟอร์มต่างๆที่เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย สะดวกในการชำระเงินและเว้น ระยะห่าง ที่ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับเอสเอ็มอีกลุ่มนี้ 20,461 ล้านบาท”
ขณะที่ร้านโชห่วย โดยเฉพาะการจำหน่ายอาหารสดและยาสูบ ที่กำลังซื้อในธุรกิจนี้กลับมาเติบโตในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว จากการที่ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้า คาดว่าธุรกิจนี้ทำรายได้ให้กับ เอสเอ็มอี 1.25 ล้านล้านบาท ส่วนธุรกิจจัดงานแข่งขันหรืออีเวนต์กีฬา เช่น งานวิ่ง งานแข่งจักรยาน มวย คาดว่าจะสร้างรายได้ 1,504 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่กลับมาฟื้นตัว ส่วนใหญ่ได้รับผลดีจากการเปิดประเทศ รวมทั้งพฤติกรรมประชาชนหลังโควิด-19 ได้แก่ บ้านพักขนาดเล็ก (เกสต์เฮาส์) บ้านตากอากาศ (บังกะโล) ร้านขายของที่ระลึก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแนววัฒนธรรมชนบท ธุรกิจด้านบันเทิง ได้แก่ ร้านขาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บาร์และดิสโก้เธค ธุรกิจด้านจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์และเกมส์ ธุรกิจบริการจัดเลี้ยงและให้เช่าอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ธุรกิจขายของมือสองและซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจโหราศาสตร์
“กลุ่มธุรกิจที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ ธุรกิจที่พักคนงาน เนื่องจากแรงงานต่างชาติยังไม่กลับมา ธุรกิจ หอพักนักศึกษา จากการปรับรูปแบบเป็นเรียนออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากการ ระมัดระวังการใช้จ่าย สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายและซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง”
