ทลายเครือข่ายเว็บพนัน-เว็บเถื่อนดัง ละเมิดลิขสิทธิ์บอลพรีเมียร์ลีก เสียหายกว่า 2.9 พันล้าน ตรวจค้น 21 จุด เช่น สระแก้ว, ระยอง, สระบุรี, กรุงเทพฯ และปริมณฑล
เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และตำรวจ สน.)มีนบุรี เปิดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจค้น 21 จุด เช่น สระแก้ว, ระยอง, สระบุรี, กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าจากเว็บพนันออนไลน์และการละเมิดลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2.9 พันล้านบาท
ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ดีเอสไอตรวจค้น 21 จุด เนื่องมาจากได้รับแจ้งเบาะแสจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายค้น โดยระหว่างทำการสืบสวนพบว่ามีการใช้บัญชีม้า ซึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่า 1.2 พันล้านบาท และมีความเคลื่อนไหวของกระแสเงินในหลายพื้นที่ มีความเชื่อมโยงกับกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และอาจเชื่อมโยงไปถึงฟุตบอลยูโร และสลากกินรวบหรือหวยออนไลน์
ร.ต.อ.เขมชาติ ยังกล่าวว่า สาเหตุที่เข้าตรวจค้นบริษัทในเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เพราะมีพยานหลักฐานว่าข้องเกี่ยวกับการประกอบกิจการเว็บไซต์พนันออนไลน์ประมาณ 10 เว็บไซต์ โดยเฉพาะบริเวณด้านในออฟฟิศของบริษัทแห่งนี้มีการวางผังโต๊ะ เก้าอี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เข้าข่ายทำกิจกรรมในลักษณะอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมื่อไปตรวจสอบด้านหลังของอาคารบริษัทแห่งนี้ยังพบว่ามีการทำธุรกิจจำหน่ายกัญชาในเชิงพาณิชย์ด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวทางตำรวจ สน.มีนบุรี จะรับผิดชอบตรวจสอบว่าการจำหน่ายกัญชาเหล่านี้ได้รับใบอนุญาตจำหน่ายอย่างถูกต้องหรือไม่
ร.ต.อ.เขมชาติ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของดีเอสไอจะขยายผลเรื่องบัญชีม้ากว่า 100 บัญชีที่พบ ซึ่งมีทั้งบัญชีม้าคนไทยและคนต่างด้าว ว่ามีความเป็นมาอย่างไร มีการเปิดบัญชีหรือซื้อขายบัญชีอย่างไร และนำไปใช้ในการใด เข้าข่ายเป็นการฟอกเงินหรือไม่ และมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องไหม อีกทั้งบัญชีม้า 1 บัญชีอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอาชญากรรมลักษณะหนึ่งหรือประเภทเดียว แต่อาจไปเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับคดีอาชญากรรมอื่นๆ ได้ และคนที่เข้าไปเล่นพนันออนไลน์ของเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงกับบริษัทแห่งนี้ จากรายงานสืบสวนพบว่ามีถึง 30,000 ราย โดยข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่นอาจถูกแก๊งมิจฉาชีพซื้อขายข้อมูลไปแล้ว ท้ายสุดตกไปอยู่ในมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อก่อเหตุหลอกลวงในรูปแบบอื่นๆ หรือสแกมเมอร์
ร.ต.อ. เขมชาติ กล่าวต่อว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในคดีมีผู้เสียหายคือ บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด มูลค่าความเสียหายรวม 2.9 พันล้านบาท วันนี้เจ้าหน้าที่ได้นำทั้งหมายค้นจากศาลอาญาและหมายจับมาแสดง โดยผู้ต้องหา 5 ราย ทั้งหมดเป็นคนไทย มีบทบาทเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าว บางรายหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งยังเคยต้องโทษคดีจัดให้มีการเล่นการพนันอีกด้วย
ร.ต.อ. เขมชาติ ยังกล่าวว่า ทั้งนี้ ยังมีบางรายยังกบดานในไทย คาดว่าวันถึงสองวันนี้จะได้ตัวมาดำเนินคดี เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับการทำเว็บไซต์พนันออนไลน์ ในบรรดาเป้าหมายตรวจค้นทั้ง 21 จุด มีการประกอบธุรกิจหลากหลาย ทั้งประเภทจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์เทคโนโลยี ค้าขายทั่วไป หรือบางแห่งก็ไม่ได้ประกอบธุรกิจอะไร จึงจะต้องนำไปขยายผลว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันอย่างไร ดีเอสไอยังได้ประสานทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ดูเรื่องธุรกรรมทางการเงินต่อไป
