แมกโนเลียฯ เผยกลยุทธ์แบรนด์ระดับโลกผสานสุดยอดทำเล หนุนยอดขาย ‘ซิกเซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ตอบโจทย์ตลาดซูเปอร์พรีเมี่ยม ทำยอดขายทะลุ 4,700 ล้านบาท
นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MQDC เปิดเผยว่า บริษัทฯ พัฒนาโครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ โครงการแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 7ล่าสุดทำยอดขายบ้านแล้วกว่า 4,700 ล้านบาท โดยขายแล้ว 21 หลัง จากทั้งหมด 27 หลัง ณ วันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา
“ยอดขายดังกล่าว สะท้อนความต้องการที่ยังมีสูงมากสำหรับบ้านระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ที่ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติ รวมการออกแบบและก่อสร้างที่เป็นคุณภาพระดับสูงสุด โดยในช่วง 30 วันแรกของการเปิดขาย สามารถขายบ้านได้ถึง 16 หลัง และจนถึงวันนี้ขายเพิ่มได้อีก 5 หลัง” นายกิตติพันธุ์ กล่าว
โดยปัจจัยสำคัญมาจาก การดำเนินการภายใต้กลยุทธ์การผสมผสานกันระหว่าง สิ่งต่างๆทั้งหมดที่มากับแบรนด์เดอะซิกส์เซนส์ ร่วมกับสุดยอดคอนเซ็ปต์โครงการ และทำเลที่ตั้งในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่ผลักดันให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อโครงการฯ อย่างรวดเร็ว
สำหรับ บ้านในโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 27 หลัง ที่มาพร้อมพื้นที่สวนของตัวเอง และมีทะเลสาบล้อมรอบ โดยตัวบ้านมีให้เลือก 3 ขนาด ตั้งแต่ 3-5 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ประมาณ 790 ตารางเมตร ไปจนถึงเกือบ 1,500 ตารางเมตร และมีราคาตั้งแต่ประมาณ 180 ล้านบาท ไปถึงมากกว่า 360 ล้านบาท
นอกจากนี้ บ้านในโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ทั้งหมด เป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยที่เรียกได้ว่าดีที่สุด และมีสเปกสุดยอดที่สุดในประเทศไทย ทุกหลังรับประกันคุณภาพ 30 ปีโดย MQDC และทุกหลังมาพร้อมกับบริการและสิทธิพิเศษที่เหนือระดับตามแบบฉบับของบ้านแบรนด์ซิกส์เซนส์ รวมถึงบริการอำนวยความสะดวกที่ใส่ใจผู้อยู่อาศัยอย่างที่สุด พร้อมด้วยคลับเฮ้าส์ และการบริหารจัดการดูแลในระดับพิเศษเพื่อรักษาและคงความเป็นสังคมที่มุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพการใช้ชีวิต และความยั่งยืน
นายกิตติพันธุ์ กล่าวว่า บริษัท Foster + Partners และ DT designs รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบ และ Six Senses Hotels Resorts Spas เป็นที่ปรึกษาด้านงานตกแต่งภายใน และภาพรวมโครงการ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่า บ้านทุกหลังในโครงการจะตั้งอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นเขียวขจีของธรรมชาติ ผสานการใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกตัวบ้านอย่างกลมกลืนไร้รอยต่อ มีบ่อออนเซนและสระว่ายน้ำ พร้อมวิวทะเลสาบและสายลมธรรมชาติ
โดยคาดว่าบ้านหลังแรกๆในโครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คาดว่าจะพร้อมโอนได้ในไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่ง เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังจะเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งใหม่ในเครือซิกส์เซนส์ที่มีห้องพักประมาณ 85 ห้อง ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เช่นกัน
ขณะเดียวกัน เจ้าของบ้านโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าใช้สถานที่ต่างๆ ของโรงแรม รวมไปถึงบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่การดูแลบ้าน การดูแลเด็ก (baby-sitting) ไปจนถึงบริการบัตเลอร์ พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในการใช้บริการต่างๆ ห้องพัก อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้ง สปาอีกด้วย
นายกิตติพันธุ์ กล่าวว่า “สำหรับที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่โครงการอื่นๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ อาทิ บ้านแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ พบว่ามียอดขายดีเช่นเดียวกัน โดยสามารถทำยอดขายได้แล้ว 3,720 ล้านบาท ณ เดือนพฤษภาคม 2565 ด้วยโครงการฯ มุ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่อยู่ร่วมกันหลากหลายเจนเนเรชั่น ด้วยจุดเด่นครอบครัวที่ต้องการอยู่ใกล้ชิดกันในบ้านเดี่ยวหลายๆ หลังในอาณาบริเวณเดียวกัน”
โดยโครงการ มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า มีบ้านทั้งหมด 37 หลัง มีให้เลือกสามขนาด ตั้งแต่ 4-6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 1,000 ตารางเมตรถึง 1,700 ตารางเมตร” นายกิตติพันธุ์ กล่าว
สำหรับ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 398 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นเส้นทางสู่พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่กำลังเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยพื้นที่อันกว้างใหญ่ของ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ประกอบไปด้วยพื้นที่สวนสาธารณะ ธรรมชาติ โครงการที่พักอาศัยหลากหลายแบรนด์ที่ตอบโจทย์หลากหลายไลฟ์สไตล์และช่วงวัย รวมไปถึงพื้นที่เพื่อกิจกรรมชุมชนต่างๆ และพื้นที่เชิงธุรกิจที่มุ่งเน้นส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ท่ามกลางธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพ