Thursday, 25 April 2024 - 1 : 46 pm
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

เอสโฮเทลฯเท 560 ล้านบาทกว๊านซื้อหุ้นโรงแรม 26 แห่งในอังกฤษ

เอสโฮเทล แอนด์ รีสอร์ทด ฯ ทุ่มงบประมาณ 560 ล้านบาท ซื้อหุ้นโรงแรม 26 แห่งในอังกฤษ ประกอบด้วยห้องพักรวม 2,886 ห้อง ภายใต้แฟรนไชส์โรงแรมที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกในแบรนด์เมอร์เคียวรองรับตลาดท่องเที่ยวยุโรปฟื้นตัว

นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (ยูเค) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทางอ้อม 100% เข้าซื้อหุ้นสามัญของ FS JV Co., Ltd. ได้ครบ 100% แล้ว ด้วยเงินลงทุนประมาณ 564.49 ล้านบาท ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรมในสหราชอาณาจักรจำนวนทั้งหมด 26 แห่ง ประกอบด้วยห้องพักรวม 2,886 ห้อง ภายใต้แฟรนไชส์โรงแรมที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกในแบรนด์เมอร์เคียว พร้อมกันนี้ยังได้แต่งตั้งบริษัท Interstate Hotels & Resorts ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการโรงแรมสำหรับแบรนด์แฟรนไชส์ และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในสหราชอาณาจักรและยุโรป มาเป็นผู้บริหารจัดการโรงแรมตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563

“การลงทุนครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ของสิงห์โฮเทลฯ ในการหาโอกาสในการลงทุนที่มีความน่าดึงดูดและเพื่อเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในการบริหารจัดการกลุ่มโรงแรมในสหราชอาณา จักรทั้ง 26 โรงแรมของบริษัท ให้เป็นไปตามทิศทางที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ”

เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอส โฮเทลฯ กล่าวและว่า โดยการลงทุนครั้งนี้เป็นการเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่บริษัทรู้จักเป็นอย่างดี มีความเข้าใจตลาดและความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจุดเด่น คือการกระจายตัวของโรงแรมต่างๆ ตามเมืองเศรษฐกิจและเมืองท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักร เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากในประเทศและในทวีปยุโรปกว่า 90% อีกทั้งเล็งเห็นศักยภาพในการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศและระหว่างภูมิภาคของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศที่มีความพร้อมในการกระจายวัคซีนให้กับประชากรเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ผนวกกับแนวโน้มเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักรและยุโรปที่ปรับอาจตัวดีขึ้นภายหลังอังกฤษฯ ถอนตัวจากสหภาพยุโรป มีความชัดเจน

อีกทั้งการลงทุนนี้เป็นการเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนในทรัพย์สินที่ช่วยสร้างสมดุลของรายได้และกำไรให้บริษัท และลดผลกระทบด้านฤดูกาล เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทมีเสถียรภาพในทุกไตรมาสจากอานิสงส์ของฤดูกาลท่องเที่ยวของตลาดยุโรปในระหว่างไตรมาสที่ 2 และ 3 ซึ่งสมดุลกับทรัพย์สินของบริษัทที่ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทยและสาธารณรัฐมัลดีฟส์ที่มีฤดูกาลท่องเที่ยวโดยทั่วไปในไตรมาส 1 และไตรมาส 4 โดยบริษัทคาดหวังว่าจะสามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตขึ้นปีละ 2-3 พันล้านบาท หากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติ นอกจากนี้ยังมองเห็นโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพของพอร์ตโฟลิโอนี้ให้มีความเหมาะสมและต่อยอดสินทรัพย์ที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้สูงขึ้น

© 2021 thairemark.com