Sunday, 22 December 2024 - 12 : 58 pm
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

J&C ลัดฟ้าพาสมาชิกเที่ยว”ดูไบ”นครแห่งความมั่งคั่ง

ขึ้นชื่อในความเป็นเมืองแห่งความมั่งคั่งและด้วยสมญานามแหล่งขุมทรัพย์ทะเลทรายก็ต้องหมายความถึง “ดูไบ (Dubai)” ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates) ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางของการพาสมาชิกจอยแอนด์คอยน์ (J&C) บินลัดฟ้าไปท่องเที่ยวสไตล์กินหรูอยู่สบายแบบครบรสครบเครื่องทั่วทุกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ (ระหว่างวันที่ 31มีนาคม-5เมษายน) เริ่มจากพาไปเยือน “ดูไบเฟรม” สถาปัตยกรรมหน้าคล้ายกรอบรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก, นำเที่ยว “Dubai Creek” ทะเลที่สร้างขึ้นโดยการขุดเข้ามาในชายฝั่งเพื่อแบ่งนครดูไบออกเป็น 2 ส่วนก็คือ Deira Dubai และ Bur Dubai

จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากที่ชาวเมืองดูไบเรียกกันว่า Abra Taxi ข้ามฟากไปย่านตลาดเก่า Old Dubai Souk ในฝั่ง Bur Dubai เพื่อให้ได้สัมผัสวิถีความเป็นอยู่ของชาวเมืองดูไบแบบโบราณและได้ช้อปปิ้งตลาดทอง “Gold Souk ตลาดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก” รวมทั้งได้ช้อปปิ้ง “ตลาดเครื่องเทศ Spice Souk” ซึ่งทั้งตลาดตลบอบอวลด้วยกลิ่นเครื่องเทศนับร้อยชนิดจากทั่วทุกมุมโลก, นำชมสุเหร่าคู่บ้านคู่เมือง “สุเหร่าจูไมร่า” สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังในสถาปัตยกรรมอิสลามประยุกต์, ชมความงดงามของ “หาดจูไมร่า” ซึ่งรายล้อมไปด้วยโรงแรมชั้นนำมากมายพร้อมแวะชมโรงแรมหรูระดับ 7 ดาว ณ “Burj Al Arab” ที่สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมโดดเด่นสะดุดตารูปเรือใบและแวะซื้อของในศูนย์การค้ารูปทรงอาหรับโบราณ “MADINAT JUMEIRAH SOUK” ช้อปปิ้งมอลล์ ตั้งอยู่ริมทะเล

พาไปแชะภาพถ่ายรูปกันที่พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต “Museum of the future” อาคารสูง 77 เมตรรูปวงรีที่ตั้งเด่นกลางเมือง, จูงมือกันไปช้อปปิ้งที่ Mall of the Emirates ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบที่ผสมผสานความเป็นอาหรับและเมดิเตอร์เรเนียนเข้าด้วยกันเรียกว่าหรูหราใหญ่โตอลังการ, นำท่องทะเลทรายสุดหฤหรรษ์ให้ได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่กับการนั่งรถตะลุยไปบนเนินทรายสูงต่ำสลับกันไปมาพร้อมกับได้เล่นสกีทะเลทรายที่หวาดเสียวท้าทายและชมพระอาทิตย์ตกอันแสนสวยงามโรแมนติก รวมทั้งได้สัมผัสชีวิตพื้นเมืองสนุกสนานกับการขี่อูฐและได้พักผ่อนในแคมป์กระโจนแบบอาหรับให้ได้สวมชุดพื้นเมืองชาวอาหรับเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก, นำเดินทางสู่กรุงอาบูดาบีเมืองหลวงของ U.A.E. นครที่ได้รับสมญานามว่า Garden of Gulf ที่มีความเขียวขจีท่ามกลางตัวเมืองที่ทันสมัย

ชมพระราชวังทีประทับประมุขของประเทศ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ จุดชมวิวชิคาโกบีชกับชายทะเลสีเทอร์ควอยซ์ที่, นำชมสุเหร่าประจำเมือง Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyan Grand Mosque สุเหร่าที่งดงามที่สุดของ U.A.E. มีความใหญ่โตเป็นอันดับ 3 ของโลก, พาไปแชะภาพคู่กับ “ตึกเอทิฮัด ทาวเวอร์” กลุ่มอาคารที่ใช้ถ่ายทำฉากจัมป์รถข้ามตึกในหนังเรื่อง Furious และถ่ายภาพบริเวณทำเนียบประธานาธิบดีคัสร์ อัล วาตัน ในอาบูดาบี, พากลับนครดูไบด้วยรถไฟ Monorail ชมเกาะต้นปาล์มและแวะถ่ายรูปกับโรงแรมแอตแลนทิสเดอะปาล์ม นิยามใหม่ของจุดหมายปลายทางทั้งจากการเป็นสัญลักษณ์ของดูไบและเป็นหนึ่งในจุดสังเกตที่ต้องชมของเมืองในคราเดียวกัน,

พาชมสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก “ดูไบมิราเคิลการ์เด้น” ที่มีดอกไม้นานาพันธุ์กว่า 4 5ล้านต้นบนพื้นที่ 72,000 ตารางกิโลเมตร, พาถ่ายรูปคู่กับตึกที่สูงที่สุดในโลก “Burj Khalifa” ด้วยความสูงถึง 828 เมตร มีทั้งหมด 162 ชั้น นอกจากนี้ยังพาขึ้นลิฟท์ที่มีความเร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็ว 18 เมตรต่อวินาที โดยชั้น123- 124 เป็นชั้นที่สามารถชมวิวนครดูไบได้ทั้งหมดในมุม 360 องศา, นำเดินเล่นเที่ยวห้างดูไบมอลล์ห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อให้ได้ถ่ายรูปหน้าตู้ปลาที่มีขนาดใหญ่มากกว่าสิบคนยืนเรียงกัน ส่วนเรื่องของอาหารการกินตลอดทั้งทริปบอกได้คำเดียวว่าหรูหราครบรสครบทุกชาติ มีทั้งอาหารบุฟเฟ่นานาชาติในภัตตาคาร Deli Boutique Reaturant,

อาหารไทยในภัตตาคารไทย Wise Kwai Restaurant, อาหารจีนในภัตตาคาร Chaina club Restaurant, อาหารพื้นเมืองในแคมป์กลางทะเลทรายพร้อมชมโชว์พื้นเมือง, อาหารบุฟเฟ่ที่ Oceana Restaurant, อาหารในภัตตาคารโรงแรม M One Restaurant และมื้อส่งท้ายที่ภัตตาคาร Kanpai Restaurant ก่อนมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติดูไบเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯด้วยความอิ่มเอมอีกเช่นเคย

© 2021 thairemark.com