จากวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่หนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม และเสียชีวิตจำนวนมากเพิ่มขึ้นทุกวัน เนื่องจากมีวัคซีนที่ทางรัฐบาลนำเข้านั้นไม่พอเพียงฉีดให้กับประชาชน
พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฏาเดช (สารวัตรแรมโบ้) ประธานที่ปรึกษา บริษัท แรมโบ้เฮิร์บ จำกัด “มืออาชีพเรื่องสุขภาพ” จึงได้ทำหนังสือเปิดผลึกถึงนายกรัฐมนตรี หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค) โดยผ่านทาง ดร.เสกสกล อัตถากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา และทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค) ได้รับจดหมายเรื่องนโยบายนำเข้าวัคซีนทางเลือกเสรี ปลอดภาษีไว้พิจารณาแล้ว
โดยใจความในจดหมายมีเนื้อหาดังต่อไปนี้คือ ด้วยปัจจุบัน ไวรัสโควิด-19 “นักฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ชาติแห่งศตวรรษ” ได้พรากชีวิตประชากรทั่วโลกไปแล้วประมาณ 4.2 ล้านคนเศษ มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมประมาณ 197 ล้านคนเศษ รวมทั้งประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 5.9 แสนคน เสียชีวิตเกือบ 4.800 คน มี ทางรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข ทุกๆ ภาคส่วน บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศมีความมุ่งมั่นจริงใจให้การพยาบาลรักษาดุแล พร้อมเร่งระดมเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชากรทั่วประเทศให้ครอบคลุมทั่วถึงให้ได้ 70 ล้านคนเศษทั่วประเทศ
รวมทั้งแรงงานต่างด้าว นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่กระจายพักอาศัยอยู่ทั่วประเทศไทยด้วย แต่เนื่องด้วยบุคคลากรทางการแพทย์บางส่วนมีกำลังจำนวนจำกัด อีกทั้งเป็นเหตุการณ์วิกฤติเฉพาะหน้าที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลกในรอบ 100 ปี จึงต้องแบ่งกำลังพลกระจายให้การรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อที่เจ็บป่วยสะสมอยูจำนวนมากและมีคนไข้ติดเชื้อเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นตลอดเวลา จึงทำให้แพทย์พยาบาล อาสาสมัครฯ บางส่วนติดเชื้อจากผู้ป่วยและเสียชีวิตลงตลอดเวลา จากปัญหาและเหตุผลสำคัญดังกล่าวข้างต้น กระผมจึงขอให้นายกรัฐมนตรีได้โปรดให้การสนับสนุนนโยบายนำเข้าวัคซีนทางเลือกเสรีและยกเว้นภาษี เพื่อสนับสนุนให้ภาคเอกชนทุกๆ
ภาคส่วนทั่วประเทศที่มีความพร้อม มีขีดความสามารถนำเข้าวัคซีนเสรีทางเลือก ฉีดวัคซีนให้กับบุคคลากรของภาคเอกชนของตนเองแทนการรอรับฉีดวัคซีนจากภาครัฐ กระผมมีความมั่นใจว่าภาคเอกชนทุกๆ ภาคส่วนที่ประกอบด้วยภาคธุรกิจ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ภาคอุสาหกรรม ภาคการท่องเที่ยว โรงแรม สถานบริการ อื่นๆ อีกจำนวนมากมีความพร้อมในการนำเข้าวัคซีนเสรีทางเลือกและยกเว้นภาษี จะสามารถนำวัคซีนสั่งเข้ามาระดมฉีดให้กับพนักงานลูกจ้างขององค์กรภาคเอกชนของเขาเอง รวมทั้งแรงงานต่างด้าวที่เขาดูแลได้เร็วขึ้น ทั้งเป็นการป้องกัน ลดการติดเชื้อ เจ็บป่วยและเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณะสุขได้มาก เชื่อว่าไม่เกิน 2 เดือน ภาคเอกชนน่าจะช่วยระดมฉีดวัคซีนพนักงานลุกจ้างได้ครอบคลุมทั่วถึงทั้งประเทศ และเป็นผลดีโดยตรงต่อรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องลดความสูญเสีย รวมทั้งเป็นผลดีต่อประเทศชาติ ทำให้ประเทศไทยสามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้เร็วขึ้น
สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากถึงทุกคนว่า การรู้เท่าทันเพื่อเตรียมรับมือให้ถูกวิธีจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย สิ่งที่ควรคำนึงถึงและสำคัญที่สุดในการป้องกันคือ หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ถึงแม้ว่าจะฉีดวัคชีนป้องกันโควิด-19 แล้วก็ตาม ก็ยังมีโอกาสที่จะติดโควิด-19ได้อีก เราจึงยังต้องยกการด์สูง ใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา ล้างมือมือล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่แออัด เลี่ยงการสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และทานอาหารเสริมสมุนไพร กระชายขาว (กระชายเหลืองหรือกระชายสีทอง)
ถ้าบริษัท ห้างร้าน หรือใครที่สนใจ ต้องการนำไปแจกจ่าย หรือสั่งผลิตเพื่อจำหน่าย สามารถติดต่อได้ที่ คุณฐิติชญาเจษฏาเดช (กรรมการผู้จัดการบริษัท แรมโบ้เฮิร์บจำกัด โทร.092-496-1924 และ 081-498-3999