[date_time]
68.06.09-ส่งเว็บremark-320x100px_CREai
OIC_001
data-no-lazy="1"
68.06.09-ส่งเว็บremark-320x100px_CREai
OIC_001

เวทีโลกจับตา!!! Honda LPGA Thailand 2026 จับตา พลังนักกอล์ฟเอเชียกำลังเปลี่ยนเกม

เสียงปรบมือเชียร์เริ่มขึ้นแต่เช้ามั่นใจของนักกอล์ฟระดับโลก เสียงลูกกอล์ฟกระทบหน้าไม้ก้องขึ้นท่ามกลางแฟนๆที่หลั่งไหลเข้ามาบริเวณที่ออฟ บรรยากาศเหล่านี้กำลังจะกลับมาเติมชีวิตชีวาให้ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จังหวัดชลบุรี อีกครั้ง เมื่อศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2026 เตรียมเปิดฉากอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 19–22 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

สำหรับแฟนกอล์ฟ นี่ไม่ใช่เพียงหนึ่งในรายการแข่งขันประจำปี หากแต่คือสัปดาห์ที่ ความฝัน ความหวัง และพลังเชียร์จากทั่วเอเชียและทั่วโลก หลอมรวมอยู่ในทุกหลุม ทุกช็อต บรรยากาศก่อนทัวร์นาเมนต์ปีนี้จึงเข้มข้นเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงจังหวะที่หลายปัจจัยหลักมาบรรจบกันอย่างพอดี ทั้งฟอร์มอันร้อนแรงของนักกอล์ฟรุ่นใหม่จากเอเชีย การเติบโตอย่างต่อเนื่องของกอล์ฟสตรีในระดับโลก ควบคู่กับบทบาทของ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ขยายขอบเขตอย่างก้าวกระโดดจากระดับภูมิภาคสู่แพลตฟอร์มกอล์ฟที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในระดับนานาชาติ

ในบรรดานักกีฬาที่ถูกจับตามองมากที่สุดของแฟนกีฬาชาวไทยในปัจจุบัน คือ จีโน่–อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟสาววัย 22 ปี ผู้ครองตำแหน่งมือหนึ่งของโลกในปัจจุบัน จากผลงานอันโดดเด่นในฤดูกาล 2025 ที่เธอคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ถึง 3 รายการ พร้อมรางวัล Rolex Player of the Year และ Vare Trophy จากค่าเฉลี่ยสกอร์ 68.68 ซึ่งเป็นสถิติต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์แอลพีจีเอทัวร์ ทำลายสถิติเดิมของ อันนิกา โซเรนสตัม ตำนานนักกอล์ฟสวีเดน นับตั้งแต่ก้าวสู่ทัวร์อย่างเต็มตัว จีโน่ยังรักษามาตรฐานระดับสูงด้วยการจบอันดับท็อป 10 อย่างสม่ำเสมอ และก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟที่ทำเงินรางวัลสะสมทะลุ 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 4 ปี จีโน่–อาฒยา ฐิติกุล เคยสร้างผลงานโดดเด่นด้วยการคว้ารองแชมป์ในศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ปี 2021

ขณะที่ เม–เอรียา จุฑานุกาล คว้าแชมป์รายการเดียวกันในปี 2021 และ แพตตี้–ปภังกร ธวัชธนกิจ คว้าแชมป์ในปี 2024 โดยนักกอล์ฟทั้งสามคนล้วนเคยเป็นตัวแทนประเทศไทยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ อาฒยา และปภังกร ลงแข่งขันในโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020 (ซึ่งจัดการแข่งขันในปี 2021) และ ปารีสเกมส์ 2024 ส่วนเอรียาลงแข่งขันโอลิมปิกมาแล้วสองครั้ง ได้แก่ ริโอเกมส์ 2016 และ โตเกียวเกมส์ 2020 ภาพจำจึงไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ของความสำเร็จส่วนบุคคล หากแต่สะท้อนถึง พลังและคุณภาพของกอล์ฟสตรีไทยที่ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทัวร์ระดับโลก และยิ่งทำให้การกลับมาแข่งขันศึกนี้ในบ้าน ถูกจับตามองในฐานะหนึ่งในโมเมนต์สำคัญของกอล์ฟสตรีเอเชีย

เมื่อขยับมามองในภาพรวมของทวีปเอเชีย ญี่ปุ่นคืออีกประเทศที่ส่งสัญญาณความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน นักกอล์ฟญี่ปุ่นคว้าแชมป์ถึง 7 รายการในฤดูกาล 2025 นำโดย มิยู ยามาชิตะ แชมป์เมเจอร์ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น และ เมย์แบงก์ แชมเปียนชิพ รวมถึงเจ้าของรางวัล Louise Suggs Rolex Rookie of the Year ขณะที่ ริโอะ ทาเคดะ แชมป์บลูเบย์ แอลพีจีเอ และ มาโอะ ไซโกะ แชมป์เมเจอร์ เชฟรอน แชมเปียนชิพ ต่างสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของนักกอล์ฟรุ่นใหม่ที่พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในรายการใหญ่

นอกจากนี้ คู่แฝด อากิเอะ–ชิซซี่ อิวาอิ ยังสร้างสีสันด้วยการคว้าแชมป์ พอร์ตแลนด์ คลาสสิก และ ริเวรา มายา โอเพ่น กลายเป็นคู่แฝดคู่แรกที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอทัวร์ โดยอากิเอะยังเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการจบรองแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 ความสำเร็จเหล่านี้ตอกย้ำภาพของญี่ปุ่นในฐานะหนึ่งในขุมกำลังสำคัญของ แอลพีจีเอทัวร์ ยุคปัจจุบัน ที่มีนักกอล์ฟติดท็อป 100 อันดับโลกมากถึง 18 คน และที่น่าสนใจคือ แชมป์ทั้ง 6 คนในฤดูกาลนี้มีอายุเฉลี่ยเพียง 23.6 ปี เท่านั้น ส่งให้การขับเคี่ยวระหว่างนักกอล์ฟไทยและญี่ปุ่นพัฒนาเป็น “การแข่งขันเชิงสร้างสรรค์” ที่แฟนกอล์ฟทั่วเอเชียติดตามอย่างใกล้ชิด

ในฝั่งประเทศไทย กอล์ฟสตรียังคงยืนหยัดอยู่แถวหน้าของเวทีโลกอย่างต่อเนื่องตลอดกว่าทศวรรษที่ผ่านมา นับตั้งแต่การแจ้งเกิดของนักกอล์ฟรุ่นบุกเบิก จนถึงการเติบโตของนักกอล์ฟรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ซึ่งสามารถคว้าแชมป์แอลพีจีเอรวมแล้ว 30 รายการจากนักกอล์ฟ 7 คน และมีผู้เล่นไทยถึง 5 คนที่ติดอยู่ในกลุ่มท็อป 100 ของโลก ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงศักยภาพของตัวนักกีฬา ควบคู่กับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนและโครงสร้างการแข่งขันที่เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟได้พัฒนาฝีมืออย่างเป็นระบบตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น โดยเฉพาะการแข่งขันคัดเลือกระดับประเทศ National Qualifiers ซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูด่านแรกให้เยาวชนไทยและนักกอล์ฟสมัครเล่นได้สัมผัสประสบการณ์ระดับอาชีพ ก่อนก้าวต่อไปสู่เส้นทางการแข่งขันระดับโลกอย่างเป็นรูปธรรม

ไม่เพียงแค่นี้นักกอล์ฟรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมาสร้างผลงานยอดเยี่ยมในแอลพีจีเอทัวร์อีกหลายคนไม่ว่าจะเป็น เยลีมี โนห์ วัย 24 ปี จากสหรัฐอเมริกา คว้าแชมป์ฟาวน์เดอร์ส คัพ ลอตตี โหวด วัย 21 ปี จากอังกฤษเพิ่งเทิร์นโปรก็คว้าแชมป์วีเมนส์ สกอตติช โอเพ่น ทำได้ในรายการแรกในการเทิร์นโปร มิรันดา หวัง นักกอล์ฟสาวจีนวัย 26 ปี ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์เอฟเอ็ม แชมเปียนชิพ เป็นแชมป์แรกในแอลพีจีเอ ทัวร์ และยังมี มายา สตาร์ก วัย 26 ปี จากสวีเดน แชมป์เมเจอร์ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น และเกรซ คิม วัย 24 ปี จากออสเตรเลีย แชมป์เมเจอร์เอวิยอง แชมเปียนชิพ

ภาพรวมของกอล์ฟสตรีโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนการเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งในมิติของการแข่งขันและฐานแฟนกีฬา โดยเงินรางวัลรวมของแอลพีจีเอทัวร์เพิ่มขึ้นมากกว่า 43% ภายในระยะเวลา 4 ปี รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่จะมีการปรับเพิ่มเงินรางวัลสำหรับการแข่งขันในปี 2026 ขณะเดียวกัน จำนวนนักกอล์ฟหน้าใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านคน นับตั้งแต่ปี 2016 โดยผู้หญิงและคนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุด ยอดผู้ชมถ่ายทอดสดและการมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มดิจิทัลก็ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียซึ่งกลายเป็นหนึ่งในตลาดกอล์ฟสตรีที่เติบโตเร็วที่สุด ส่งผลให้กอล์ฟสตรีในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงกีฬาแข่งขันเท่านั้น หากแต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์และแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ยังคงยืนหยัดในฐานะรายการแอลพีจีเอทัวร์เพียงหนึ่งเดียวของประเทศไทย และหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่นักกอล์ฟและแฟนกีฬาชื่นชมว่ามีบรรยากาศดีที่สุด สยามคันทรีคลับ ไม่เพียงท้าทายด้วยการออกแบบสนามระดับแชมเปียนชิพ แต่ยังสร้างช่วงเวลาจดจำให้กับการแข่งขันทุกปี ตั้งแต่การลุ้นแชมป์จนถึงหลุมสุดท้าย ช็อตไฮไลต์ที่กลายเป็นภาพจำ ไปจนถึงเรื่องราวของนักกอล์ฟเอเชียและไทยที่แจ้งเกิดต่อหน้าแฟนกอล์ฟในบ้านหรือแม้แต่นักกอล์ฟอย่าง ลิเลีย วู จากสหรัฐอเมริกาก็มาคว้าแชมป์แรกของในแอลพีจีเอที่รายการนี้ ก่อนจะก้าวไปอยู่ในทำเนียบนักกอล์ฟแชมป์เมเจอร์ และครองมือหนึ่งของโลก และเอมี หยาง โปรสาวจากเกาหลีใต้ที่คว้าแชมป์ถึงสามครั้งที่นี่ก่อนจะไปคว้าแชมป์เมเจอร์สำเร็จ

แนวคิดนี้สอดคล้องกับทิศทางของแอลพีจีเอในยุคใหม่ โดย เครก เคสเลอร์ ประธานแอลพีจีเอทัวร์ เน้นย้ำว่า “เอเชียคือหัวใจสำคัญของการเติบโตในอนาคต ทั้งในแง่นักกีฬา แฟนกอล์ฟ และพันธมิตร พร้อมเดินหน้ายกระดับประสบการณ์ผู้ชมให้ใกล้ชิดและมีส่วนร่วมมากขึ้น ผ่านกิจกรรมในสนาม แพลตฟอร์มดิจิทัล และโครงการเยาวชนที่เปิดเส้นทางจากสนามท้องถิ่นสู่เวทีระดับโลกอย่างชัดเจน”

เมื่อทุกองค์ประกอบมาบรรจบกัน ทั้งฟอร์มร้อนแรงของนักกอล์ฟไทยและญี่ปุ่น การเติบโตอย่างต่อเนื่องของกอล์ฟสตรีโลก และเวทีระดับนานาชาติที่พร้อมสมบูรณ์ในทุกมิติ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2026 จึงไม่ใช่เพียงทัวร์นาเมนต์หนึ่งในปฏิทินการแข่งขัน หากแต่เป็นช่วงเวลาสำคัญของกอล์ฟสตรีเอเชีย และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์มาถึง ที่สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พร้อมรายชื่อผู้เล่นระดับโลกที่เริ่มทยอยเปิดเผยในช่วงปลายเดือนมกราคม แฟนกอล์ฟจะได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกันว่าใครจะเป็นดาวที่เปล่งแสงที่สุดบนเวทีแห่งนี้ และนี่คือเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมทุกคนถึง “ห้ามพลาด” อีเวนต์นี้

© 2021 thairemark.com