ททท. เปิดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 68 ครั้งที่ 43 คาดคนร่วมงาน 1.3 แสนคน สร้างการรับรู้ 45 ล้านคน-ครั้ง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้จัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2568 ครั้งที่ 43 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันนี้-30 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเสิร์ฟความสุขให้คนไทย ยกความมหัศจรรย์มาไว้ในงานเดียวครบทุกมิติ ซึ่งถือเป็นงานที่คนไทยรอคอย และททท.ต้องการให้การจัดงานนี้สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยขนไฮไลต์พิเศษจาก 9 โซนกิจกรรมหลัก ที่จะพาดื่มด่ำกับเสน่ห์ของประเทศไทย ทั้งแลนด์มาร์กสำคัญ จุดถ่ายภาพสุดปัง ของดีของเด็ดจากทั่วประเทศ นวัตกรรมการท่องเที่ยวล้ำสมัย รวมถึงโชว์ศิลปวัฒนธรรมและการแสดงจากศิลปินชื่อดัง โดยคาดว่าในปี 2568 นี้ จะมีผู้เข้าร่วมชมงานตลอด 5 วันจัดงาน 130,000 คน สร้างการรับรู้ 45 ล้านคน-ครั้ง รับรองว่าใครที่ร่วมงานนี้จะได้ความรู้สึกแบบแกรนด์ โมเมนต์อย่างแน่นอน
“เทศกาลเที่ยวเมืองไทยในครั้งนี้ ททท.ยังคงเน้นความเป็นสายเลือดในฐานะหน่วยงานส่งเสริมแนวทางการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ผ่านกิจกรรมที่ขนมาแบบหลากหลาย โดยเฉพาะเน้นความยั่งยืนมากขึ้น ผ่านกิจกรรมลดโลกเลอะ Zero Waste to Landfills กำหนด 14 จุดบริการคัดแยกขยะทั่วงาน เพื่อช่วยลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังบ่อฝังกลบให้น้อยที่สุดโดยขยะทุกชนิดจะได้รับการคัดแยกและกำจัดอย่างถูกวิธีปีนี้ตั้งเป้าหมายท้าทายขึ้นไปอีกกับการลดปริมาณขยะที่ไม่ได้แยกสูงสุดที่ 10% สะท้อนความตั้งใจให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง” นางสาวฐาปนีย์ กล่าว
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า สำหรับ 9 โซนกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ ได้แก่ 5 โซนหมู่บ้านจากทุกภูมิภาค และ 4 โซนกิจกรรมสำคัญแต่ละโซนจัดเต็มนำเสนอแลนด์มาร์กสุดไอคอนิก จุดถ่ายภาพ อาหารและสินค้าท้องถิ่นจากทั่วประเทศ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนให้ทุกคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Amazing Thailand ซึ่งจะมีฟังก์ชันแผนที่ 3D และระบบนำทาง AR ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถเห็นผังการจัดงานแบบ 3 มิติ หาจุดแลนด์มาร์ก บูธ หรือร้านค้า ภายในงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนสามารถดูตารางกิจกรรมเวทีหลัก พร้อมแจ้งเตือนล่วงหน้าหากมีกิจกรรมที่สนใจ โดยบริเวณเวทีกลางเพิ่มดีกรีความสนุกด้วยการแสดงดนตรี ศิลปินที่มีชื่อเสียงและการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมทุกวัน
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ขอเชิญชวนให้ทุกคนดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Amazing Thailand ซึ่งจะมีฟังก์ชันแผนที่ 3D และระบบนำทาง AR ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถเห็นผังการจัดงานแบบ 3 มิติ หาจุดแลนด์มาร์ก บูธ หรือร้านค้า ภายในงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนสามารถดูตารางกิจกรรมเวทีหลัก พร้อมแจ้งเตือนล่วงหน้าหากมีกิจกรรมที่สนใจ รวมทั้งชวนร่วมกิจกรรมแลกรับ Art Toy Journey Collection และของที่ระลึกจาก ททท. เพียงรับพาสปอร์ตจากบูธ 1672 Travel Buddy ที่โซนที่ 1 Amazing Thailand : สุขทันที 65 ปี ททท. แล้วสะสมยอดค่าใช้จ่ายภายในงาน ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2568
ทั้งนี้ 9 โซนกิจกรรมหลัก ได้แก่ โซนที่ 1 Amazing Thailand : สุขทันที 65 ปี ททท. ชวนไป “ฮีลใจ” รับความสุขสุดๆ กับแคมเปญสื่อสารและบริการต่างๆ พร้อมลุ้นรับของที่ระลึกสุดพิเศษ Art Toy Journey Collection และพลาดไม่ได้กับกิจกรรมเติมความสุขเต็มสตรีมแบบไม่กั๊ก กิจกรรมไลฟ์สุดพิเศษของศิลปินวง DICE และนักแสดงจากซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ รวมทั้งร่วมพูดคุยกับ นักแสดงนำจากซีรี่ย์เรื่อง RESET
เข้าสู่หมู่บ้านภูมิภาค โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก เปิดประสบการณ์ความมหัศจรรย์ทุกเฉดสีของ 9 จังหวัดภาคตะวันออก ผ่านแนวคิด “5 Must Do in the East” โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์กอาณาจักรผีเสื้อแห่งผืนป่าตะวันออก อุทยานแห่งชาติปางสีดา และอุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมจุดถ่ายภาพซุปตาร์ที่โด่งดังไปทั่วโลก “น้องหมูเด้ง” ความสูง 2 เมตร
โซนที่ 3 หมู่บ้านภาคกลาง พร้อมเปิดบ้านต้อนรับด้วยแนวคิด “5 Must Do in Central Thailand” เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวได้ตลอดปี ชวนย้อนวันวานเป็นคนกรุงสุดโก้ในบรรยากาศสถานีรถไฟหัวลำโพงและโบกี้รถไฟ SRT Royal Blossom จุดเริ่มต้นของการเดินทางที่สุดแสนคลาสสิก และจำลองพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นแลนด์มาร์กไอคอนิคที่มาพร้อมกิจกรรมถ่ายภาพสตูดิโอย้อนยุค ภายในหมู่บ้านจัดไฮไลต์ โซนล้านตลาดถนนคนเดิน ขนร้านอาหารการันตีรางวัลและร้านเก่าแก่มาเสิร์ฟแน่นๆ
โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ ชวนสัมผัสเสน่ห์เมืองล้านนากับคอน “SEASON OF NORTH 2025” ผ่าน “5 Must Do in Northern Thailand” ที่มาพร้อมการตกแต่งบรรยากาศสไตล์ Modern Lanna พบแลนด์มาร์กจอ LED ขนาดยักษ์ ฉายภาพแหล่งท่องเที่ยวและ 3D Animation “น้องเอวา” เสือโคร่งหน้าแบ๊ว สุดน่ารักประจำไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ และจุดถ่ายภาพ “ศิลาสปา นวดฟ้อนเล็บ” ฉากแหล่งท่องเที่ยว 3 มิติ ถ้ำสีฟ้า จ.ตาก จำลองเทศกาลสงกรานต์ภาคเหนือ ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จ.เชียงใหม่
โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้ หล๊บเรินปักษ์ใต้บ้านเฮากับแนวคิด “5 Must do in Thailand : GO SOUTH” เสิร์ฟอัตลักษณ์พหุวัฒนธรรมตั้งแต่แลนด์มาร์กป้าย SOUTHERN Village กับน้องโลมาสีชมพู และ วงเวียนสุรินทร์จังหวัดภูเก็ต วังยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และซุ้มประตูสีสันลายผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติก และลูกปัดโนรา ก่อนวาร์ปไปหรอยแรงกันที่ “หลาดหรอยเพ Must Taste” อัดแน่นเมนูอาหารรสใต้ ดื่มด่ำสัมผัสวิถีแบบคนใต้ ทั้งกาเฟ โรตี ชาชัก เครื่องดื่ม
โซนที่ 6 หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลงรักถิ่นอีสานไปกับแนวคิด บอกเล่า“ประเพณีสีอีสาน วิถีแห่งศรัทธา” ของพื้นที่ราบสูง 20 จังหวัด ภายใต้แนวคิด 5 Must Do in Isan ตั้งตระหง่านแลนด์มาร์กสุดว้าว ต้นกระธูปยักษ์ไฮเทค ความสูง 7 เมตร และกระธูปบริวาร สะท้อนงานบุญเดือนสิบ จ.ชัยภูมิ และจุดถ่ายภาพ งานบุญกระธูป จ.ชัยภูมิ มาลัยข้าวตอก จ. ยโสธร และผีตาโขน จ.เลย ห้ามพลาดเติมความแซ่บนัวในโซน Must Taste “หม่องแซ่บนัว” กับเมนูเด็ดเป็นตาแซ่บ ชวน “น้ำลายแตก” รวมกว่า 40 ร้าน
โซนที่ 7 พันธมิตรและห้าง ททท ได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กระทรวงวัฒนธรรม หอการค้าไทย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตำรวจท่องเที่ยว บริษัท ปตท. จำกัด สถาบันวิจัยดารา ศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT การรถไฟแห่งประเทศไทย รวมทั้งรวบรวมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว 8 หน่วยงาน เสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวผ่าน “ห้าง ททท.
โซนที่ 8 เวทีกลาง เพิ่มดีกรีความสนุกด้วยการแสดงดนตรี ศิลปินที่มีชื่อเสียง และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ ศรราม น้ำเพชร, ก้านตอง ทุ่งเงิน, วง MEAN, ASIA 7, เอิ๊ต ภัทรวี, เรนิษรา, วงกางเกง, ต่าย อรทัย, ไรอัล กาจบัณฑิต, อ๋อมแอ๋ม เพชรบ้านแพง, Monica, เบล วริศรา, ดอกอ้อ ทุ่งทอง, Ponchet ,เป๊ก ผลิตโชค, สุนทราภรณ์, Goldred, เต๋า ภูวศิลป์, เล็ก รัชเมศฐ์ รวมทั้งกิจกรรม Fan Meeting กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ และใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
โซนที่ 9 Sustainable Tourism Goals ตอกย้ำหมุดหมายของการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืน การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ พบไฮไลต์แลนด์มาร์ก วาฬบรูด้า ประติมากรรมขยะพลาสติก กว่า 90 กิโลกรัม สร้างสรรค์โดย Wishulada ศิลปินผู้ผลิตงานศิลปะจากขยะและของเหลือใช้ เพื่อสะท้อนปัญหาการจัดการขยะ ควบคู่กับการนำเสนอแนวคิดความยั่งยืน