กระแสกัญชาฟีเวอร์มาแรงในไทย “Class Cafe” เปิดแบรนด์ “Khaoyai Calm”เครื่องดื่มผสมกัญชารายแรกของจังหวัดนครราชสีมาซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในการร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีอาหารและเครื่องดื่มกับกัญชาเพื่อตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มสายสีเขียวได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคจนล้นหลาม
มารุต ชุ่มขุนทด ผู้บริหาร บริษัท คลาส คาเฟ่ จำกัด และเจ้า ร้านกาแฟ Class Cafe บอกว่า ตัวแบรนด์ใหม่ “Khaoyai Calm”เน้นเครื่องดื่มผสมกัญชามี 3 เมนูทั้ง Americano Cannabis, Green Tea Cannabis และ Pure Tea โดยเมนูทั้ง 3 เปิดให้บริการในร้าน Class Cafe เฉพาะ 4 สาขาเท่านั้น ทั้งสาขาวัดบูรพ์, สาขา มทส., สาขามหาราชและสาขาหน้าย่าโม โดยจะเสริฟเมนูเหล่านี้ให้กับเฉาะลูกค้าที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
มารุต ชุ่มขุนทด ผู้บริหาร บริษัท คลาส คาเฟ่ จำกัด
นอกจากนี้แบรนด์ Khaoyai Calm ยังมีเมนู แฮมเบอร์เกอร์หมูผสมกัญชา และขนมเบเกอรี่ที่มีส่วนผสมกัญชา อาหารว่างสำหรับเสริฟคู่กับเครื่องดื่ม ที่สำคัญยังมีเมนูทานเล่นใหม่อย่าง Jelly Cannabis วุ้นบุกผสมกัญชา โดยเมนูทั้งหมดอยู่ภายใต้แบรนด์ Khaoyai Calm และวางจำหน่ายเฉพาะ 4 สาขาที่กล่าวมาแล้ว โดยทุกครั้งที่มีการสั่งเมนูผสมกัญชา พนักงานจะทำการจดบันทึกปริมาณที่จำหน่ายและจำหน่ายให้ใครด้วย
ขณะที่ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นันทกร บุญเกิด นักวิจัยโครงการผลิตกัญชาคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ บอกว่า กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ซึ่งในต่างประเทศทำการวิจัยมานานแล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่มีการวิจัย ในปัจจุบันแม้ว่าภาครัฐจะปลดล็อคกัญชาให้สามารถนำส่วนใบและก้านไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการปลูก
การปลูกกัญชาเพื่อนำไปใช้ในทางการแพทย์หรืออาหาร จะต้องควบคุมการเพาะปลูกเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคแท้ เริ่มตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมปุ๋ยที่มีแร่ฐาตุโลหะหนักเจือปนอยู่ รวมไปถึงการควบคุมอุณหภูมิและปริมาณน้ำ รวมไปถึงการวิจัยคัดเลือกพันธุ์และวิจัยผลผลิตที่ได้ เพื่อให้ได้ต้นกัญหาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยา ซึ่งเกษตรกรทั่วไปไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากการวิจัยต่างๆ มีต้นทุนสูง
ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการวิจัยการปลูกต้นกัญชาถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการนำกัญชาไปใช้ในธุรกิจถือเป็นหนึ่งการวิจัยของทางมหาวิทยาลัยฯ แต่เนื่องจากข้อกำจัดของการเพราะปลูกและผลผลิตที่ได้ถูกนำไปใช้ในทางการแพทย์ถึง 70% จึงทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของธุรกิจทางด้านอาหารและเครื่องดื่ม
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นันทกร แนะนำว่า สำหรับธุรกิจที่ต้องการนำกัญชาไปเป็นส่วนผสม ต้องดำเนินการหากลุ่มหรือรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อเป็น Supplier แหล่งวัตถุดิบ จากนั้นนำวิสาหกิจชุมชนนั้นมาติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยฯ เพื่อให้ทางมหาวิทยาลัยฯ เข้าไปควบคุมกระบวนการผลิตและการควบคุมการนำผลผลิตกัญชาไปใช้ ซึ่งจะต้องการจดบันทึกถึงผลผลิตที่ได้ ปริมาณที่ถูกนำไปใช้ และรายละเอียดของผู้ที่นำไปใช้ รวมไปถึงการนำผลที่ได้รับจากการขายเพื่อนำไปศึกษาและวิจัยต่อไป
