บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เพิ่มขีดความสามารถคู่ค้าธุรกิจที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ต่อเนื่อง ปีนี้เตรียมเปิดตัวโครงการ Supplier Development Program ใช้ศักยภาพขององค์กรช่วยยกระดับประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs มีขีดความสามารถทางการแข่งขันสูงขึ้น สร้างแต้มต่อเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ปรับตัวรับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก
นางสาวธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักจัดซื้อกลาง ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของคู่ค้าธุรกิจในทุกมิติเพื่อสร้างความสำเร็จและการเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร โดยต่อยอดจากความสำเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้คู่ค้า SMEs จำนวนกว่า 6,500 ราย โดยปีนี้ บริษัทฯ ดำเนินโครงการ “Supplier Development Program” โดยนำร่องกับคู่ค้า SMEs ที่มีศักยภาพของบริษัทฯ กระบวนการผลิตอาหารได้มาตรฐานสากล มาช่วย SMEs ยกระดับกระบวนการผลิตตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ทั้งต้นทุนการผลิต การบริหารจัดการทรัพยากร การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ สร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการ SMEs มีขีดทางการแข่งขันสูงขึ้น
“โครงการ “Supplier Development Program” ช่วยยกระดับขีดความสามารถของคู่ค้าธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน สามารถส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง มาตรฐานสากล ควบคู่กับการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งช่วยเสริมสร้างโอกาสให้คู่ค้าธุรกิจสามารถเติบโตไปด้วยกัน เป็นไปตามนโยบายการบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ” นางสาวธิดารัตน์กล่าว
ที่ผ่านมา ซีพีเอฟมุ่งมั่นส่งเสริมโอกาสเติบโตของคู่ค้า SME มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ “Faster Payment” ลดระยะเวลาเครดิตเทอมภายใน 30 วัน ที่ดำเนินตั้งแต่ตุลาคม 2563 จนถึงธันวาคม 2565 ได้มีส่วนช่วยให้ SME มีเงินหมุนเวียนใช้ในการดำเนินงานได้เร็วขึ้น บรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีส่วนช่วย SME สามารถรักษากิจการและพนักงานได้ และปัจจุบัน บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ ดำเนินโครงการ “CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า” ซึ่งช่วยให้คู่ค้าของซีพีเอฟเข้าถึงสินเชื่อหมุนเวียนอัตราดอกเบี้ยต่ำ ลดปัญหาเรื่องการไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งช่วยให้คู่ค้า SME เข้าถึงเงินทุนในการดำเนินงานอย่างคล่องตัว และเอื้ออำนวยให้สามารถขยายตลาดได้มากขึ้น
นอกเหนือจากการสนับสนุนให้คู่ค้า SME มีขีดความสามารถทางการแข่งขันสูงขึ้นควบคู่กับการพัฒนาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เพื่อร่วมสร้างความสำเร็จให้กับผู้ประกอบการ SME สามารถปรับตัวรับกับความท้าทายในหลายๆ มิติ อาทิ การพัฒนาช่องทางการสื่อสารกับคู่ค้าด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ การสร้างเครือข่ายให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ เป็นต้น เพื่อเป็นพลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และมีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน