AIS ผนึก MSIG ออกแบบ “ประกันขับดี” นวัตกรรมประกันรถยนต์ยุคใหม่ยกระดับมาตรฐาน InsurTech ใช้ IoT เก็บข้อมูลส่ง OBD II คิดเบี้ยตามจริง ขับแค่ไหนก็จ่ายตามนั้น
นายรัฐพล กิติศักดิ์ไชยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้ธุรกิจประกันต้องค้นหาโซลูชันที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุค New Normal แนวคิดของประกันขับดีเกิดขึ้นในช่วง Lockdown ที่คนไทยทั้งประเทศต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานใหม่
จากการเดินทางไปออฟฟิศมาเป็น Work from Home จึงขับรถน้อยลง ไม่ได้ออกเดินทางไกลข้ามจังหวัด และปัจจุบัน คนขับรถแล้วจอดเพื่อต่อรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินมากขึ้น จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่เราอยากจะพัฒนาแผนประกันภัยรถยนต์ที่มีเบี้ยประกันภัยสมเหตุสมผล จ่ายเมื่อขับและหากไม่ได้ขับก็ไม่ต้องจ่าย จึงออกแบบมาเป็น “ประกันขับดี”
โดยเป็นนวัตกรรมประกันรถยนต์ยุคใหม่ที่เป็นไปตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่รถยนต์จริงๆ ตาม concept ที่ว่า ขับไม่เหมือนกัน ทำไมต้องจ่ายเท่ากัน เราใช้เวลาพัฒนาประกันขับดีอยู่กว่า 6 เดือน และพบว่าต้องใช้อุปกรณ์ OBD II หรือ On-Board Diagnostic ซึ่งเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กใช้ติดรถ สามารถเก็บค่าตัวแปร และค่าพฤติกรรมการขับรถในเชิงลึก และละเอียดกว่า Telematics ที่เก็บเฉพาะค่าระยะทางหรือชั่วโมง
จากนั้น OBD II จะส่งข้อมูลทั้งหมดไปที่ MSIG Car Informatics โดยต้องมีซิมการ์ดทำงานร่วมกันเพื่อใช้รับส่งข้อมูล ดังนั้นเราจึงเลือก AIS ที่มีจุดเด่นในเรื่องของสัญญาณที่ครอบคลุมมาจัดการเรื่องดังกล่าว
โดย MSIG Car Informatics จะเก็บพฤติกรรมการใช้รถจาก 5 ตัวแปรหลัก ได้แก่ 1. ระยะทาง 2. ความเร็ว 3. ระยะเวลาการขับขี่ 4. ช่วงเวลาการขับขี่ และ 5. พื้นที่การขับขี่ ประกันขับดีจะมีค่าเบี้ยประกันพื้นฐานรายปี ดังนี้
- ประกันรถยนต์ชั้น 1 เริ่มต้นที่ 6,499 บาท
- ประกันรถยนต์ 2+ ราคา 3,299 บาท
- หลังจากนั้นจะคิดค่าเบี้ยประกันตามการขับขี่ ซึ่งเบี้ยประกันจะถูกคำนวณเป็นรายวัน แต่ละวันก็จะไม่เท่ากัน แต่ละคนก็จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ 5 แฟกเตอร์ จากนั้นจะรวบจากเบี้ยรายวันเพื่อคิดค่าเบี้ยประกันเป็นรายเดือน
- สามารถตรวจสอบเบี้ยได้เลยจากแอปพลิเคชันประกันขับดี
- การชำระเบี้ยจะตัดจากบัตรเครดิตที่ผูกไว้ตั้งแต่ลงทะเบียน
- ประกันขับดียังถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของประกันภัยรถยนต์ที่ใช้รูปแบบ Parametric ต้องเข้า Insurance Regulatory Sandbox เพื่อทดสอบนวัตกรรม
ทั้งนี้ MSIG เห็นว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนา อุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ต่อผู้เอาประกันภัยหรือผู้บริโภคในอนาคต จึงได้นำเสนอและทางสำนักงาน คปภ. ก็ได้อนุมัติให้เข้าโครงการเรียบร้อยแล้ว
นายอลิสแตร์ เดวิด จอห์นสตั้น กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจพัฒนาธุรกิจใหม่ AIS กล่าวว่า นอกจาก AIS Insurance Service จะทำหน้าที่เป็นตัวกลาง คัดสรรบริการประกันภัยที่ดีที่สุดจากพาร์ทเนอร์เพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าแล้ว เรายังนำจุดแข็งจากการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่มีเครือข่ายครอบคลุมสูงสุด พร้อมคลื่นความถี่ที่มากที่สุด
รวมไปถึง Digital Platform ที่ช่วยพลิกโฉมยกระดับให้บริการประกันภัย และสร้างความแตกต่างไปอีกขั้นจากเทคโนโลยีดิจิทัล โดยครั้งนี้ได้ร่วมพัฒนาอุปกรณ์ MSIG Car Informatics ที่ฝังอุปกรณ์ IoT ให้สามารถส่งสัญญาณผ่านโครงข่ายของ AIS
จากนั้นก็ประมวลผลเข้าสู่ระบบ Cloud ของ MSIG ได้อย่างแม่นยำ มีเสถียรภาพ ตรงตามพฤติกรรมการใช้งานจริงของลูกค้าแบบ Real Time อีกทั้งยังได้สนับสนุนช่องทางการชำระค่าบริการรายเดือนผ่านระบบ Digital Payment Gateway ที่ช่วยอำนวยสะดวกและมีความปลอดภัยสูงสุด โดยถือเป็นต้นแบบของ InsurTech ครั้งแรกเพื่อลูกค้า ที่เราภาคภูมิใจอย่างยิ่ง