
กองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) จัดโครงการ “สัมมนาเสริมสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาคอุตสาหกรรมประกันภัยกับกองทุนประกันวินาศภัย ประจำปี 2568” ณ ห้องบอลรูม 1 ชั้น 3 โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ รัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้แทนจากภาคอุตสาหกรรมประกันภัย และผู้เกี่ยวข้องจากหลายภาคส่วนเข้าร่วมงาน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินงานของกองทุนประกันวินาศภัย และแนวทางพัฒนาระบบประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคง และรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

การจัดสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างกองทุนประกันวินาศภัยและภาคอุตสาหกรรมประกันภัยซึ่งต่างมีบทบาทร่วมกันในการเสริมสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบประกันวินาศภัยของประเทศโดยกองทุนประกันวินาศภัยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบทบาทการคุ้มครองเจ้าหนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากการเอาประกันภัย เมื่อบริษัทถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ตลอดจนต้องการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ การรับรองมูลหนี้ ขั้นตอนเร่งรัดการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัย

และสถานะทางการเงินของกองทุนประกันวินาศภัย เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ กปว. ได้เน้นย้ำว่าการมีเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่าง กปว. และภาคธุรกิจประกันภัยมีความจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงที่อุตสาหกรรมประกันภัยกำลังเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจ สภาพภูมิอากาศและความเสี่ยงรูปแบบใหม่การแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ผ่านการสัมมนาครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้ระบบประกันวินาศภัยสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม สร้างความเชื่อมั่นให้สาธารณชน

ในส่วนของความคืบหน้าการดำเนินงานกองทุนประกันวินาศภัยได้รายงานข้อมูลล่าสุดว่าการพิจารณาคำทวงหนี้ของบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตทั้ง 7 บริษัท ประกอบด้วย บมจ.สัมพันธ์ประกันภัย บจ.เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ บมจ.เอเชียประกันภัย 1950 บมจ.เดอะ วัน ประกันภัย บมจ.ไทยประกันภัย บมจ.อาคเนย์ประกันภัย และบมจ.สินมั่นคงประกันภัย มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวน

คำทวงหนี้ที่ผ่านการพิจารณาแล้วรวมทั้งสิ้น 305,684 คำขอ คิดเป็นเงิน 24,223,232,372.47 บาท ส่วนคำทวงหนี้ที่อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบและพิจารณามีจำนวน 584,762 คำขอ รวมเป็นเงิน 55,014,697,549.22 บาท ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกองทุนประกันวินาศภัย ในการเร่งรัด

การดำเนินงานให้กระบวนการชำระหนี้เป็นไปอย่างครบถ้วน นอกจากนี้กองทุนประกันวินาศภัยได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตกเป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 และคาดว่าในปี 2569 กองทุนประกันวินาศภัยจะดำเนินการชำระบัญชีเสร็จสิ้นอีก 1 บริษัท

การสัมมนาครั้งนี้เป็นโอกาสในการรายงานผลการดำเนินงานของกองทุนประกันวินาศภัย ประจำปี 2568 ต่อภาคส่วนต่าง ๆ แต่ยังช่วยสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับความสำคัญของกองทุนประกันวินาศภัยในฐานะกลไกหลักที่สนับสนุนเสถียรภาพของธุรกิจประกันวินาศภัยโดยกองทุนประกันวินาศภัยมุ่งหวังว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้จะนำไปสู่แนวทางพัฒนาร่วมกันในอนาคต ทั้งด้านกระบวนการให้บริการ และการสร้างระบบธุรกิจประกันวินาศภัยที่มั่นคงและสามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างยั่งยืน







