“นายกรัฐมนตรี” เผยคลัง-ธปท. แจ้งขอตรึงดอกเบี้ยไว้ก่อนป้องกันเงินไหลออก ลั่นรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเดินหน้าแก้ปัญหาเงินเฟ้อต่อเนื่อง ลุ้นเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนต่อขยาย พ่วงด้วยเฟส 5 รวม 3 ล้านสิทธิ์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยถึงตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน พ.ค.65 อยู่ที่ 7.1% สูงสุดในรอบ 13 ปี และมีแนวโน้มยังสูงต่อเนื่อง มิ.ย.2565 ว่ารัฐบาลเตรียมมาตรการในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะเรื่องลดค่าครองชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชน และกระทรวงการคลังก็มีวิธีการแก้ไขปัญหาอยู่เช่นกัน โดยเงินเฟ้อมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นและโอกาสที่จะลดลงมันก็มี ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังได้หารือเรื่องดังกล่าว ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์
“อัตราเงินเฟ้อวันนี้ถือเป็นปัญหาสำคัญของทั้งโลกเพราะเกิดขึ้นเกือบทุกประเทศ ต้องหาวิธีการเพื่อแก้ไข แต่จะแก้ไขปัญหาได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายนอกจะเป็นตัวกำหนดด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะส่งผลกระทบต่อเรื่องอื่นอีกจำนวนมาก”
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ยเท่าที่รับทราบและมีรายงานเข้ามา โดย ธปท. รายงานผ่านมายังกระทรวงการคลัง ว่าจะขอคงอัตราดอกเบี้ยในส่วนนี้ไว้ก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เงินไหลออกนอกประเทศซึ่งเป็นหลักการทางเศรษฐศาสตร์อยู่แล้ว
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ขอถอนเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ค่าเหยียบแผ่นดิน) ที่เดินทางโดยอากาศยาน ออกจากการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 7 มิ.ย.2565 ไปก่อน เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องคุยให้รอบด้าน ทุกมิติ เพื่อนำเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทางเรือ และทางบกเข้าพิจารณาร่วมกัน คาดว่าจะนำเสนอ ครม.อีกครั้งประมาณ 2 เดือน โดยกลุ่มที่เดินทางเข้าไทยทางบกและน้ำส่วนใหญ่จะเข้ามาจากเพื่อนบ้านและพำนักระยะสั้นๆ 2-3 วัน จะจัดเก็บค่าธรรมเนียมถูกกว่าทางอากาศที่จัดเก็บคนละ 300 บาท
ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในระหว่างการประชุม ครม. ให้กระทรวงการคลังไปหาเงินมาดำเนินโครงการ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องจากเฟส 4 ที่จะนำวงเงินเดิมที่เหลืออยู่ 5,000 ล้านบาทที่จะนำมาดำเนินโครงการเฟส 4 ส่วนต่อขยาย จำนวน 1.5 ล้านห้อง แต่หลังจากนายกรัฐมนตรีสั่งให้กระทรวงการคลังไปหารือมาช่วยเหลืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว เชื่อว่ากระทรวงการคลังน่าจะหาเงินมาดำเนินโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 จำนวน 5,000 ล้านบาท หรือได้เพิ่มอีก 1.5 ล้านห้อง และน่าจะสามารถนำกลับเข้ามาหารือในการประชุม ครม.ได้อีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ และสามารถดำเนินโครงการได้พร้อมกันอีก 3 ล้านห้อง