ศุกร์ 24 มีนาคม 2566 ถือเป็นวันสุดท้ายในการทำหน้าที่ของ ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ในตำแหน่งผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. องค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลเกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 5 ล้านครัวเรือน ผลงานในฐานะลูกหม้อที่ ธนารัตน์ ฝากไว้กับ ธ.ก.ส.คือ การบุกเบิกในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้กับงาน ธ.ก.ส. ทั้ง Front office และ Back office เพื่อรองรับการเติบโต ด้านลูกค้า บริการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึง การขับเคลื่อนบริการบน A-Mobile Banking ที่ทำให้ ธ.ก.ส. ไม่ตกเทรนด์ และมีบริการด้านเทคโนโลยีที่ไม่น้อยหน้าแบงก์อื่น ๆ
ธนารัตน์ จบทางด้านบริหารธุรกิจ จากรั้วพ่อขุน เริ่มงานกับ ธ.ก.ส. ในปี 31 ตำแหน่งพนักงานสินเชื่อที่ จ.จันทบุรี ด้วยความสนใจส่วนตัวด้านการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำมาใช้กับงาน ทำให้ผู้บริหารในยุคนั้นจับมาเทรน และผลักดันให้ไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่จุฬาฯ ธนารัตน์เคยพูดถึงความเฉิ่มของตนเอง ในครั้งที่แบงก์ให้มาเรียนรู้งานด้านคอมพิวเตอร์ว่า… ผมฟังไม่รู้เรื่องเลย… เขาพูดถึงเรื่องอะไร หรือระบบมันคืออะไร ทำงานยังไง เรียกว่าอะไร .. ต้องกลับไปหาข้อมูลจากหนังสือคอมพ์ต่าง ๆ เรียนรู้หนักกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว จึงตามคนอื่นเขาทัน….ตอนนั้นตั้งใจว่า เมื่อแบงก์ให้โอกาส ก็จะทำให้ดีที่สุด ....นั่นคือจุดเปลี่ยนทั้งของตนเอง และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีใน ธ.ก.ส.
และในวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2566 คนที่ข้ามห้วยมาจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ฉัตรชัย ศิริไล จะมานั่งแท่นผู้นำคนที่ 14 ของ ธ.ก.ส. ภารกิจนี้เป็นที่จับตามอง ทั้งของคนในและคนนอก ด้วยปัญหาที่ท้าทายคือ ภาระหนี้ครัวเรือนภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สืบเนื่องจากวิกฤติ COVID-19 ความขัดแย้งรัสเชีย-ยูเครน และภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบตรงต่อเกษตรกร เมื่อรวมกับปัญหาซ้ำซาก ภัยธรรมชาติ ราคาผลผลิตตกต่ำ รวมถึงนโยบายประชานิยมเรื่องพักหนี้ที่พักแล้วพักอีก จนคนพักคาดหวังว่าจะได้ยกหนี้… สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยที่ทำให้เกษตรกรอ่อนแอ และส่งผลต่อ NPLs ธ.ก.ส. ที่โดดจาก 4% เป็น 12% แม้สิ้นปีบัญชี จะกดลงมาได้เหลือ 7% ก็ยังจำเป็นต้องมีมาตรการอื่น ๆ มารองรับ เพื่อให้ก้าวข้ามปัญหาเหล่านี้ไปอย่างยั่งยืน… งานหินนี้แว่วมาว่า ฉัตรชัย ต้องไปทำสมาธิ..ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยถึง ชเวดากอง ประเทศพม่า ก่อนเข้ามาทำงานที่ ธ.ก.ส.
ในช่วง 4 วัน ก่อนปิดปีบัญชี ธ.ก.ส. คือ 31 มีนาคม 66 งานแรกของฉัตรชัย คือตระเวณตรวจเยี่ยมให้กำลังใจสาขา ตามประเพณีปฏิบัติของผู้บริหาร ธ.ก.ส.ที่ทำกันมา โดยเฉพาะช่วงนี้มีภารกิจพิเศษ เป็นหน่วยรับบริการยืนยันตัวตน ตามโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 14 ล้านราย ข่าวว่า!! ธ.ก.ส.ทุกสาขามีประชาชนเข้ามาใช้บริการเนืองแน่น…งานนี้ถือเป็นโอกาสเปิดตัวกับคนในด้วยกันเอง ซึ่งน่าจะส่งผลดีกับฉัตรชัย ในฐานะผู้จัดการคนใหม่…เพราะการเริ่มต้นด้วยการให้กำลังใจ…ย่อมได้ใจกลับมาเช่นกัน….ก็หวังว่าในปีบัญชีใหม่ของ ธ.ก.ส.(1 เมษายน 2566 -31 มีนาคม 2567) เราจะเห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมของผู้นำคนใหม่ ธ.ก.ส.คนนี้