Monday, 9 December 2024 - 2 : 26 pm
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

ธ.ก.ส.หนุนเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟดอยช้าง​ ช่วยเพิ่มรายได้ยั่งยืน ก้าวข้ามกับดักหนี้

รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)พงษ์พันธ์ จงรักษ์ แล​ะผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส.​ไพศาล หงษ์ทอง ลงพื้นที่ชมงานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกาแฟดอยช้าง หลังได้รับผลกระทบจากการระบาด Covid-19

นายพงษ์พันธ์ จงรักษ์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และนายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. เยี่ยมชมงานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกาแฟดอยช้างซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกเป็นชนเผ่าอาข่าและลีซูกว่า 1,500 ครัวเรือนโดยรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าบนพื้นที่กว่า 24,500 ไร่ ซึ่งความตั้งใจในการผลิตกาแฟคุณภาพ และการเอาใจใส่ในมาตรฐานช่วยเสริมสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สมาชิกมากว่า 20 ปี โดยในช่วงที่ผ่านมาสมาชิกในกลุ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ไม่สามารถส่งออกกาแฟไปยังประเทศคู่ค้ารวมถึงร้านกาแฟดอยช้างไม่สามารถเปิดให้บริการ เนื่องจากมาตรการป้องกันของรัฐบาลและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ทำให้ขาดรายได้และส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้

จากสถานการณ์ดังกล่าว ธ.ก.ส.ได้ร่วมกับชุมชนเข้าไปแก้ปัญหาผ่านโมเดล Design and Manage by Area (D&MBA) หรือการออกแบบ – การจัดการเชิงพื้นที่เพื่อให้การแก้ไขปัญหาตรงกับความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง พร้อมนำจุดเด่นของชุมชนมาเป็นปัจจัยในการฟื้นฟูอาชีพ มีการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนมาเติมความรู้ด้านการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมและการสนับสนุนด้านการตลาด รวมถึงการดำเนินมาตรการดูแลเพื่อลดภาระและความกังวลใจด้านหนี้สินด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้สอดคล้องกับที่มาของรายได้และความสามารถในการชำระหนี้

การลดภาระการจ่ายดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้ที่เกิดจากเหตุสุจริต สูงสุดไม่เกิน 50% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ในกรณีชำระหนี้เสร็จสิ้นเพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพ และมีความตั้งใจที่จะชำระหนี้กลับมามีความสามารถในการประกอบอาชีพและมีรายได้การให้รางวัลกับลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดีผ่านโครงการชำระดีมีคืน โดยคืนดอกเบี้ย 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริงไม่เกิน 1,000 บาทต่อราย ให้กับลูกค้าที่ชำระหนี้ที่ถึงกำหนด เพื่อลดภาระในการชำระหนี้และเสริมสภาพคล่อง วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังเติมสินเชื่อใหม่เพื่อลดปัญหาการก่อหนี้นอกระบบที่เป็นภาระหนักและเสริมศักยภาพในการผลิต รวบรวม และจำหน่ายผ่านมาตรการเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูลูกค้า

ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าใช้จ่ายจำเป็นฉุกเฉิน โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนประกอบอาชีพ สินเชื่อเพื่อสนับสนุนการลงทุนของผู้ประกอบธุรกิจ มาตรการการต่างๆ ดังกล่าว ช่วยให้สมาชิกในกลุ่มมีขวัญกำลังใจและกลับมามีศักยภาพในการประกอบอาชีพ รองรับกับการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ หลังการเปิดประเทศทั้งของไทยและทั่วโลก

© 2021 thairemark.com