Forbes Thailand เผย 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 “ตระกูลเจียรวนนท์-เฉลิม อยู่วิทยา-เจริญ สิริวัฒนภักดี” ยังครองความมั่งคั่ง พบ 50 อันดับแรก มูลค่าทรัพย์สินลดลงถึง 12% ส่งผลให้มูลค่ารวมทรัพย์สินลดลง 6% อยู่ที่ 5.31 ล้านล้านบาท เผย “สารัชถ์ รัตนาวะดี” มหาเศรษฐีด้านธุรกิจพลังงาน ได้อานิสงส์ของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มพรวด 2.2 พันล้านเหรียญ
Forbes Thailand เปิดเผย 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 โดยให้รายละเอียดว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นแกนหลักทางเศรษฐกิจของประเทศได้รับการผ่อนคลายกฎระเบียบพร้อมเดินหน้าเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง ใน 5 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าประเทศเป็นจำนวน 1.3 ล้านคน คิดเป็นเพียงเศษเสี้ยวของจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวน 40 ล้านคนต่อปี ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ซบเซา ดัชนีหุ้นไทยปรับลดจากจุดสูงสุดลง 3% และตั้งแต่การจัดอันดับมหาเศรษฐีไทยครั้งล่าสุด อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อหน่วยดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงถึง 12% ส่งให้มูลค่ารวมทรัพย์สินของมหาเศรษฐีไทยทั้ง 50 รายชื่อ ลดลงเกือบ 6% อยู่ที่ 1.51 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 5.31 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับการจัดอันดับปีที่ผ่านมา
มหาเศรษฐีไทย 3 อันดับแรกยังไม่มีการเปลี่ยนอันดับจากปีที่ผ่านมา มหาเศรษฐีอันดับที่หนึ่งยังคงเป็น “พี่น้องเจียรวนนท์” แม้มูลค่าทรัพย์สินรวมของพวกเขาลดลง 3.7 พันล้านเหรียญ มาจากอัตราแลกเปลี่ยนสหรัฐฯ ส่งผลทำให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศ จากการจัดอันดับโดย Forbes อยู่ที่ 2.65 หมื่นล้านเหรียญ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกลุ่มบริษัทในเครือซีพีคือดีลการควบรวม ทรู คอร์ปอเรชั่น กับ DTAC ที่ยังคงรอการอนุมัติจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช.
จากยอดขายของเครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull ที่เติบโตจากทั่วโลกทำให้มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีอันดับ 2 คือเฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว เพิ่มขึ้นอีก 1.9 พันล้านเหรียญ มูลค่าทรัพย์สินในการจัดอันดับประจำปีนี้อยู่ที่ 2.64 หมื่นล้านเหรียญ ใกล้เคียงมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง ขณะที่มหาเศรษฐีไทยอันดับ 3 ได้แก่ เจริญ สิริวัฒนภักดี โดยมูลค่าทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ 1.12 หมื่นล้านเหรียญ
การจัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปี 2565 มีเพียงมหาเศรษฐีไทยเพียง 10 รายที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น หนึ่งในนั้นคือ “สารัชถ์ รัตนาวะดี” มหาเศรษฐีด้านธุรกิจพลังงาน จากอานิสงส์ของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านเหรียญ ส่งผลให้เขาติดในรายชื่ออันดับที่ 4 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.1 หมื่นล้านเหรียญ นอกจากธุรกิจพลังงานแล้วเขายังเดินหน้าขยายความร่วมมือทางธุรกิจนำ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ AIS และ Sintel เตรียมจัดตั้งศูนย์ข้อมูลในประเทศ
สำหรับมหาเศรษฐีหน้าใหม่ 3 รายในปีนี้ ได้แก่ อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของกลุ่มเจ มาร์ท ติดในรายชื่อมหาเศรษฐีไทยในอันดับที่ 37 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 835 ล้านเหรียญ อันเนื่องจากมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่มูลค่าหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นของ Com7 หนึ่งในผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์จาก Apple รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่งให้สุระ คณิตทวีกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแห่ง Com7 ติดในรายชื่อมหาเศรษฐีไทย อันดับที่ 49 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 670 ล้านเหรียญ มหาเศรษฐีอีกรายคือ พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ผู้ร่วมก่อตั้งคลินิกเสริมความงามพงศ์ศักดิ์และยังเป็นนักลงทุนสาย (Value Investor) หรือ VI ติดในอันดับที่ 50 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 655 ล้านเหรียญ หนึ่งในพอร์ตหุ้นที่เขาถือครองมีหุ้นของกลุ่ม Com7 อยู่ส่วนหนึ่ง
สำหรับมหาเศรษฐีที่กลับเข้าสู่อันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 มี 3 รายได้แก่ กัลกุล ดำรงค์ปิยวุฒิ์ ผู้ก่อตั้ง บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ที่ห่างหายจากการเป็นหนึ่งใน 50 รายชื่อเป็นเวลา 4 ปี โดยบริษัทด้านพลังงานแห่งนี้ เดินทางสู่ธุรกิจใหม่ด้านกัญชา-กัญชง ขณะที่อีก 2 มหาเศรษฐีไทยที่กลับเข้าสู่อันดับได้แก่ บุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ DTAC และพิชญ์ โพธารามิก ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นนอล
การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทยประจำปี 2565 ในปีนี้ขีดเส้นมูลค่าทรัพย์สินต่ำสุดของผู้ที่ติดในการจัดอันดับมหาเศรษฐีทั้ง 50 คนที่ 655 ล้านเหรียญ ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ขีดเส้นไว้ที่ 737 ล้านเหรียญ ในการจัดอันดับประจำปีนี้ มีมหาเศรษฐีไทยที่หลุดจากอันดับจำนวน 6 ราย หนึ่งในนั้นคือ สมหวังและไวยวุฒิ สินเจริญกุล แห่งกลุ่มศรีตรังแอโกรอินดัสทรีฯ โดยหนึ่งในกลุ่มบริษัทของพวกเขา ที่ผลิตถุงมือยางได้รับผลกระทบอันเนื่องจากความต้องการ ของถุงมือยางลดลงช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 คิดจากอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 17 มิ.ย. โดย 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 มีรายชื่อดังต่อไปนี้
อันดับ 1 พี่น้องเจียรวนนท์ มูลค่าทรัพย์สิน 2.65 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 2 เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว มูลค่าทรัพย์สิน 2.64 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 3 เจริญ สิริวัฒนภักดี มูลค่าทรัพย์สิน 1.12 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 4 สารัชถ์ รัตนาวะดี มูลค่า ทรัพย์สิน 1.1 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 5 ครอบครัวจิราธิวัฒน์ มูลค่าทรัพย์สิน 1.06 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 6 สมโภช อาหุนัย และครอบครัว มูลค่าทรัพย์สิน 3.9 พันล้านเหรียญ
อันดับ 7 ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มูลค่าทรัพย์สิน 3.1 พันล้านเหรียญ
อันดับ 8 วานิช ไชยวรรณ มูลค่าทรัพย์สิน 3 พันล้านเหรียญ
อันดับ 9 ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และครอบครัว มูลค่าทรัพย์สิน 2.8 พันล้านเหรียญ
อันดับ 10 ครอบครัว โอสถานุเคราะห์ มูลค่าทรัพย์สิน 7 พันล้านเหรียญ
