ม.หอการค้าไทยเปิดโผ 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วงปี 2565 ชี้กลุ่มอีคอมเมิร์ซสุขภาพมาแรง เพราะคนใส่ใจสุขภาพมากขึ้นหลังโควิดระบาด และเปลี่ยนพฤติกรรมหันซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ขณะที่กลุ่มไร้ฝีมือ ไม่ใช้เทคโนโลยี เป็นดาวดับ ส่วนเศรษฐกิจปีหน้าคาดฟื้นชัดไตรมาส 2 ทั้งปีจีดีพีขยายตัว 4–4.5%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ได้จัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง ดาวร่วงในปี 65 โดยพิจารณาจากยอดขาย ต้นทุน กำไร ผลกระทบปัจจัยเสี่ยงและการแข่งขัน ความต้องการกระแสนิยม ซึ่งพบว่าธุรกิจดาวรุ่งอันดับ 1 ได้แก่ ธุรกิจบริการทางการแพทย์ ความงาม และอีคอมเมิร์ซ
เพราะได้รับได้อานิสงส์จากโควิด-19 ทำให้คนใส่ใจสุขภาพ และสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น อันดับ 2 ธุรกิจแพลตฟอร์ม อันดับ 3 ธุรกิจโลจิสติกส์ดีลิเวอรี และคลังสินค้า, ธุรกิจฟินเทค และการชำระเงินฝากระบบเทคโนโลยี
อันดับ 4 ธุรกิจประกันภัย และประกันชีวิต, ธุรกิจเวชภัณฑ์ ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ และธุรกิจทางการแพทย์, ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ อันดับ 5 ธุรกิจขายตรง อันดับ 6 ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป อันดับ 7 ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจยูทูบเบอร์ และการรีวิว, ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ เช่น อาหารสัตว์ การดูแลสุขภาพสัตว์, อันดับ 8 ธุรกิจบรรจุภัณฑ์, ธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่ อันดับ 9 ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วน และอันดับ 10 ธุรกิจเพื่อความบันเทิง, ธุรกิจก่อสร้าง และอสังหา ริมทรัพย์แนวราบ, ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจท่องเที่ยว และบริการต่อเนื่อง
ส่วนธุรกิจดาวร่วง ปี 65 คือ อันดับ 1 ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน และเครื่องโทรสาร อันดับ 2 ธุรกิจฟอกย้อม ธุรกิจหัตถกรรมที่ไม่มีการออกแบบและราคาถูก อันดับ 3 ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และวารสาร, ธุรกิจรับส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้านและสถานที่ทำงาน อันดับ 4 ธุรกิจโรงพิมพ์ การพิมพ์ เช่น หนังสือ แผ่นพับ ธุรกิจคนกลาง อันดับ 5 ธุรกิจผลิตและขายต้นไม้ ดอกไม้ประดิษฐ์, ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ไร้ฝีมือ หรือเสื้อผ้าโหล อันดับ 6 ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา เซรามิก อันดับ 7 ธุรกิจร้านถ่ายรูป อันดับ 8 ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ อันดับ 9 ธุรกิจของเล่นเด็ก และอันดับ 10 ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์
“กลุ่มธุรกิจที่โดดเด่นจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจความรวดเร็ว ความเป็นเมืองกลับมาเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความสะดวกสบาย คนจะห่วงสุขภาพ และความงามมากขึ้น อะไรที่เป็นดาวร่วง ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความโมเดิร์น ที่ไม่ใช้มือถือ และการค้าขาย ต่อไปจะเป็นเฉพาะกลุ่มคนมากขึ้น”
นายธนวรรธน์กล่าวต่อถึงภาพรวมเศรษฐกิจปี 65 ว่า ภาคการส่งออก คาดว่าเพิ่มขึ้น 5% ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 4-4.5% ซึ่งขณะนี้ต้องรอดูโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่ภาครัฐจะออกมา โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 จะออกมาเมื่อไร โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นประมาณ ไตรมาส 2 ปีหน้า และจะฟื้นอย่างโดดเด่นช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ไตรมาส และปรับขึ้นดอกเบี้ยไตรมาส 4 ปีหน้า ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง จะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวไทย คาดว่านักท่องเที่ยวจะกลับมา 5 ล้านคน กำลังซื้อต่างๆจะเริ่มกลับมา และผลักดันให้จีดีพีเติบโตได้ 4-4.5%.