
นายกฯ อนุทิน ลงเรือท้องแบนติดตามสถานการณ์น้ำหาดใหญ่ จ.สงขลา แจกถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ย้ำ! เร่งทุกหน่วยทำงานเต็มกำลัง
.
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อมาถึงสี่แยกโรงปูน ซึ่งเป็นจุดที่ประชาชนมารอรับถุงยังชีพ นายกรัฐมนตรีได้ลงจากรถยกสูง ปภ. ทักทายให้กำลังพี่น้องประชาชนอย่างเป็นกันเอง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เข้ามาทักทายและขอข้าว-น้ำ เพราะโดนตัดน้ำตัดไฟไม่มีสถานที่ประกอบอาหาร ร้านค้าปิดเกือบทั้งเมือง ขณะที่บางคนขอความช่วยเหลือให้ช่วยนำผู้สูงอายุและผู้ป่วยซึ่งติดอยู่ที่บ้านออกมา ด้านนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือแล้ว

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ลงเรือท้องแบนแจกถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสิ้น 1,600 ชุด สนับสนุนจากจังหวัดสงขลา 700 ชุด องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา 500 ชุด และจากหน่วยงานอื่น ๆ อีก 900 ชุด
สำหรับจังหวัดสงขลา ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากฝนตกสะสมต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19–22 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมทั่วทั้ง 16 อำเภอ 70 ตำบล 395 หมู่บ้าน รวม 28,940 ครัวเรือน หรือประชาชน 77,374 คน โดยยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ ได้ประกาศเขตภัยพิบัติในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ เมืองสงขลา บางกล่ำ ควนเนียง คลองหอยโข่ง นาหม่อม หาดใหญ่ รัตภูมิ จะนะ ระโนด และสิงหนคร พร้อมยกระดับการเฝ้าระวังเป็นพิเศษในอำเภอหาดใหญ่ 13 ตำบล ครอบคลุมประชาชนกว่า 80,000 คน รวมถึงประกาศ “ยกธงแดง” ใน 103 ชุมชน
แนวทางการแก้ปัญหา จังหวัดสงขลาได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งด่วนจำนวน 80 เครื่อง ใน 68 จุดสำคัญ ประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำจาก ปภ. เขต 12 จำนวน 6 เครื่อง สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 8 จำนวน 11 เครื่อง สำนักงานชลประทานที่ 16 จำนวน 43 เครื่อง อบจ.สงขลา 3 เครื่อง และจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เสี่ยงอีก 17 เครื่อง นอกจากนี้ ยังสนับสนุนเรือท้องแบนจาก ปภ. เขต 12 จำนวน 6 ลำ รถยกสูง และกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 42 รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อปพร. ตำรวจ และจิตอาสา เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการอพยพ การจราจร และให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง
ขณะที่เทศบาลนครหาดใหญ่ได้เปิดจุดอพยพ 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 1 (เอ็งเสียงสามัคคี) รองรับได้ 100 คน และโรงเรียนเทศบาล 4 (วัดคลองเรียน) รองรับได้ 50 คน พร้อมจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม ของใช้จำเป็น และถุงยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและทันท่วงที.











