Wednesday, 12 February 2025 - 12 : 09 am
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

ส่งออกข้าวไทยปี ’68 เจอศึกหนัก! ราคาตลาดโลกลดฮวบ ออเดอร์สั่งซื้อล่วงหน้าถูกยกเลิก

สถานการณ์ส่งออกข้าวไทยในปี 2568  น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง หลังจากประเทศอินเดียประกาศปลดล็อกส่งออกในยังนานาประเทศ ส่งผลกระทบกับประเทศผู้ผลิต ที่ส่งออกข้าวทั่วโลก ขณะที่ไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันราคากับประเทศส่งออกคู่แข่งอื่นๆ  อีกหลายราย 

ชาวนาไทยพอจะลืมตาอ้าปากได้จากการส่งออกข้าวในปีที่แล้ว โดยมียอดปริมาณส่งออกสูงถึง  9.95 ล้านตัน ผลพวงที่ประเทศอินเดียให้ระงับการส่งออกเพื่อบริโภคในประเทศจากปัญหาภัยธรรมชาติ ซึ่งสูงมากในรอบ 6 ปี แต่ในปีนี้ จากการประเมินสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยของกรมการค้าต่างประเทศและสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจะเผชิญกับความท้าทาย และการแข่งขันอย่างหนัก

โดยเฉพาะการปลดล็อคส่งออกข้าวของประเทศอินเดีย หลังจากผ่านพ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ มีผลผลิตเพียงพอ และพร้อมกลับส่งออกเช่นเดิม โดยคาดว่าปีนี้อินเดียจะมีปริมาณส่งออกมากถึง 22  ล้านตันและส่งผลกระทบกับออเดอร์ที่มีการสั่งซื้อล่วงหน้า (ในปี 2567)  มีราคาที่สูงกว่า ราคาซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ประเทศผู้นำเข้าทิ้งสัญญาเดิม และชะลอการนำเข้า สร้างความเสียหายให้กับผู้ส่งออกไทยบางรายค้างส่งนับแสนตัน

เรื่องนี้ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า สถานการณ์ส่งออกข้าวไทยช่วงต้นปี  2568 ว่า ตลาดค้าข้าวโลกปั่นป่วนอย่างหนัก คำสั่งซื้อใหม่หยุดชะงัก เนื่องด้วยปริมาณข้าวทั่วโลกยังอยู่ในปริมาณที่สูง ส่งผลต่อราคาข้าวทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบการค้าปกติเริ่มมีปัญหา ทั้งจากประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศชะลอส่งมอบข้าวในสัญญาเดิม หลายบริษัทเริ่มเห็นการทิ้งสัญญาที่ตกลงไว้เดิมตั้งแต่ปลายปี 2567 เพราะราคาข้าวที่ได้ตกลงกันไว้ช่วงซื้อขายปลายปี 2567 ถึงต้นปี 2568 สูงกว่าค่อนข้างมาก

“ที่น่าวิตกคือ ราคาข้าวไทยกลับมาสูงกว่าประเทศคู่แข่งค้าข้าวของโลกในเกือบทุกชนิด และราคาส่งออกข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่ง 50-60 เหรียญสหรัฐต่อตันแล้ว อย่างข้าวขาว 5% ราคาส่งออกของไทยเฉลี่ย 430-440 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาข้าวส่งออกเวียดนามต่ำกว่า 390 เหรียญสหรัฐต่อตันแล้ว และราคาเวียดนามต่ำกว่าอินเดียแล้วด้วย”

สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวร่วงรุนแรงและกำลังป่วนระบบการค้าข้าวโลก จากเหตุการณ์สำคัญ คือ ประเทศนำเข้าอย่างอินโดนีเซียหยุดการซื้อข้าว หลังจากราคาข้าวร่วงต่ำลงกว่าที่เจรจาซื้อไว้ ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายให้กับผู้ส่งออกไทยบางรายค้างส่งนับแสนตัน

“เดือนมีนาคมนี้ เราจะเจอทั้งสต๊อกเดิมค้างรอระบาย และผลผลิตข้าวรอบใหม่ออกตลาด อินเดียก็เร่งระบาย กำลังเจรจาขายให้กับมาเลเซีย ที่ก่อนหน้านี้ซื้อจากเวียดนามมาก เราประเมินว่าการค้าข้าวและการส่งออกข้าวไทยที่คาดการณ์ปีนี้หวังส่งออกไว้ 7.5 ล้านตัน จะพลาดเป้าแค่ไหน น่าจะชัดเจนในเดือนเมษายน”

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้รัฐบาลไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหามาตรการต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือผู้ส่งออก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ทางกรมการค้าระหว่างประเทศ ได้ออกมาตรการในการช่วยเหลือ โดย อำนวยความสะดวกในการส่งออกข้าวไทย กรมฯ ได้ดำเนินการแล้วในการปรับลดขั้นตอนและระยะเวลาการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกข้าว จากเดิมใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 3 วัน เหลือเพียง 30 นาที ซึ่งสามารถดำเนินการได้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งกรมฯ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจึงคาดการณ์ร่วมกันว่าการส่งออกข้าวไทยในปี 2568 จะมีประมาณ 7.5 ล้านตัน

นอกจากนี้ กรมฯ ยังมุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสในการขยายช่องทางตลาดของข้าวไทยให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็กตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีแผนนำผู้ประกอบการรายเล็กที่มีศักยภาพในการส่งออกข้าวเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจในงาน BIOFACH (เยอรมัน) งาน Natural Products Expo West (สหรัฐอเมริกา) และงาน THAIFEX – Anuga Asia (ไทย) แต่ปัญหานี้ก็คงเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาภายใน เพราะเราไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้

มาติดตามดูว่าส่งออกข้าวไทยในปี 2568 นี้ จะสามารถฟันฝ่าสถานการณ์ความความท้ายทายนี้ได้อย่างไร  และรัฐบาลจะมีมาตรการอื่น ๆ  ออกมาช่วยเหลือและรับมืออย่างไร

© 2021 thairemark.com