Friday, 22 November 2024 - 2 : 07 pm
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

นายกฯให้คำมั่นรัฐบาลอยู่ครบเทอมเตรียมแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค.นี้

นายกรัฐมนตรี ยันรัฐบาลเร่งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ย้ำรัฐบาลอยู่ครบเทอม เตรียมแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค.นี้ ตีปี๊บนโยบายใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมเพ็คเกจเป็นของขวัญประชาชน

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนา PRACHACHAT THAILAND 2025 โอกาส ความหวัง ความจริง และกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ประเทศไทย : โอกาส ความหวัง ความจริง” โดยเชื่อมั่นว่า คนไทยมีศักยภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ แค่ขาดโอกาสในทุกด้าน ทำให้ม่สามารถสร้างชีวิตของตัวเองได้ รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมาย ต้องกระจายโอกาส โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ ให้ถึงประชาชนอย่างเท่าเทียม จะลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาความยากจนให้สำเร็จ ภายใต้ข้อจำกัดที่มี และภายหลังจากการเดินสายไปต่างประเทศทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในประเทศประเทศไทย จึงมั่นใจว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมจนถึงการเลือกตั้งในครั้งหน้าได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไทย GDP ไตรมาส 3 อยู่ที่ร้อยละ 3 มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่า GDP ในปีนี้ จะอยู่ที่ร้อยละ 2.6 ถือว่ากำลังฟื้นตัว โดยรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว เพิ่มมากกว่าร้อยละ 28 จากปีที่แล้ว คาดว่าในปีนี้จะมียอดนักท่องเที่ยวสูงถึง 36 ล้านคน และอาจจะถึง 40 ล้านคนได้ในปีหน้า ถือเป็นสัญญาณที่ดี ว่าภาคการท่องเที่ยวกำลังกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ เกิดจากนโยบายด้านการท่องเที่ยว ทั้งวีซ่าฟรี การพัฒนาการบริการของสนามบิน นโยบาย Festival Country ที่ทำต่อเนื่องมากจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน

ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อต่ำ อยู่ที่ประมาณร้อยละ 0.26 และราคาพลังงานโลก มีแนวโน้มลดลง ทำให้ต้องลดดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า เพราะจะทำให้มีการนำเงินมาลงทุนเพิ่มขึ้น
และมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะโตเกินร้อยละ 3 อย่างแน่นอน ซึ่งต้องอาศัยการทำงาน ควบคู่ไปกับหลายมาตรการ โดยรัฐบาลต้องเร่งใช้งบลงทุนกว่า 9.6 แสนล้านบาท ให้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมกำชับให้ปีหน้าต้องใช้ให้ทัน ให้คุ้มค่าภาษี

นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอก การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองของอเมริกา จะส่งผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า รวมถึงไทยอาจจะเสียเปรียบประเทศจีน ที่อาจส่งผลถึงเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ดังนั้น ทางรอดของไทยในปีหน้า คือ ต้องสร้างอุตสาหกรรมที่ใช้วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวนำ ผ่าน 3 โอกาสที่จับต้องได้ และ กำลังพัฒนาอยู่ ได้แก่ โอกาสในอาหาร ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเป็นครัวโลก และมีความมั่นคงด้านอาหาร จึงต้องเปลี่ยนจากประเทศเกษตรกรรมสู่อุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในแง่การส่งออกวัตถุดิบทางการเกษตรและการส่งออกอาหารไทยไปทั่วโลก // โอกาสในสุขภาพ หรือ Wellness ที่ต้องพัฒนาในทุกด้านให้ทันต่อเทคโนโลยี และต้องทันสมัย พร้อมนำงานวิจัย ทั้งเรื่องสมุนไพรไทย และสารสกัดจากพืชผักของไทย เพื่อสร้างมูลค่าให้มากขึ้น // และโอกาสในอุตสาหกรรมที่สร้าง Soft Power ซึ่งวัฒนธรรมไทยมีเสน่ห์ มีของดี มีเอกลักษณ์ ดังนั้น ต้องทำให้ “คุณค่า” ในวัฒนธรรมไทยกลายเป็น “มูลค่า” เพื่อยกระดับชีวิตของประชาชน ทั้งหมดนี้ ถือเป็นการทำนโยบาย เพื่อสร้างระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ที่เอื้อให้เกิดการเติบโตกับทุกอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์

ทั้งนี้ รัฐบาลยังเร่งดำเนินการเรื่องพลังงาน ที่คาดการณ์ว่าแหล่งแก๊สธรรมชาติที่อ่าวไทยจะหมดไม่เกินอีกสิบปี จึงมีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องหาแหล่งก๊าสธรรมชาติใหม่ เพื่อเป็นเชื้อเพลิงของประเทศไทย รวมถึงต้องสนับสนุนพลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก อย่างโซล่าเซลล์ โดยเน้นให้ภาคเอกชนนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช่ได้ง่ายขึ้น

ขณะเดียวกันเซมิคอนดักเตอร์ เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ ประเทศไทยกำลังศึกษาที่มีส่วนร่วมกับอุตสาหกรรมนี้และพัฒนากันต่อไป ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เชื่อ และมองเห็นว่าประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าได้ และหวังว่าจะทำให้ทุกคนจับต้องถึงโอกาสที่รัฐบาลกำลังทำให้เกิดขึ้น ทำให้ประชาชน มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไปด้วยกัน

นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้ติดตามการแถลงครบรอบ 90 วัน ของรัฐบาล ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ เพื่อรับทราบนโยบายใหม่ที่ชัดเจน เตรียมพร้อมรับโอกาสใหม่ที่จะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันจะมีแพ็คเกจของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

© 2021 thairemark.com