Wednesday, 4 December 2024 - 12 : 50 am
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

ยอดขายวูบ!แม่ค้าผลไม้โคราชโอดองุ่นไชน์มัสคัตขายไม่ออกหลังมีข่าวพบสารตกค้าง

จากกรณีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เครือข่ายต้านสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ร่วมกับนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2567 พบสารพิษตกค้างสูงถึง 74% ในองุ่นไชน์มัสแคท ซึ่งจำหน่ายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผลการตรวจดังกล่าวสร้างความตกตะลึงในหมู่ผู้บริโภค ส่งผลให้ผู้คนทั่วประเทศเกิดความวิตกกังวลต่อความปลอดภัยในการบริโภคผลไม้ชนิดนี้ และหลีกเลี่ยงการซื้อองุ่นไชน์มัสคัตทันที

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจแผงขายผลไม้ในตลาดเทิดไท อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นตลาดค้าส่งผักและผลไม้ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า บรรยากาศในโซนจำหน่ายผลไม้นำเข้าที่เคยคึกคักกลับเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะแผงจำหน่ายองุ่นไชน์มัสคัตที่ได้รับผลกระทบจากข่าวสารเคมีตกค้างอย่างรุนแรง หลายร้านพยายามดึงดูดลูกค้าด้วยการลดราคากระหน่ำ จากราคาปกติถึง 70% โดยจากราคากิโลกรัมละ 250 บาท ลดเหลือเพียง 80 – 100 บาท แต่ถึงกระนั้น ผู้บริโภคยังคงไม่กล้าเสี่ยงซื้อ

นางถาวร พรหมมี อายุ 58 ปี ผู้ค้าองุ่นไชน์มัสคัตในตลาดเทิดไท บอกว่า ตั้งแต่ข่าวการตรวจพบสารพิษในองุ่นไชน์มัสตัตแพร่กระจายไปตามสื่อต่าง ๆ ทำให้ร้านของตนได้รับผลกระทบอย่างหนัก สินค้าที่เคยขายได้ดีต้องเหลือค้างสต็อกจนเกิดความเสียหาย องุ่นไชน์มัสคัตที่นำมาขายเน่าเสียไปแล้วกว่าครึ่ง ส่วนที่เหลือก็ต้องเร่งระบายด้วยการลดราคาขายขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ลูกค้าก็ยังคงไม่มั่นใจ กลัวเรื่องความปลอดภัย จนทำให้ยอดขายตกต่ำและขาดทุนสะสมต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แม่ค้าผลไม้หลายรายรู้สึกเสียใจและเครียดอย่างมาก เพราะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ด้วยตัวเอง ทั้งที่ความจริงแล้วผู้ค้าในตลาดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบสารพิษตกค้างในผลไม้แต่อย่างใด โดยปกติการนำเข้าองุ่นไชน์มัสคัตจะผ่านขั้นตอนการนำเข้าตามกฎหมายจากประเทศจีนและญี่ปุ่น แต่ขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยกลับไม่ชัดเจน โดยไม่มีการตรวจสารตกค้างก่อนเข้ามาจำหน่ายในตลาด ทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ความหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าตั้งแต่ก่อนนำเข้ามาขายที่ประเทศไทย อย่างน้อยควรมีใบรับรองที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้นำเข้าและลูกค้า แต่ทุกวันนี้ กลับกลายเป็นว่าผู้ค้าตามตลาดทั่วประเทศต้องเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งที่เราไม่สามารถควบคุมเรื่องคุณภาพของสินค้าจากต้นทางได้เลย จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือและดูแลอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้”นางถาวร กล่าว

ขณะที่ ผู้ค้าในตลาดเทิดไทหลายรายได้แสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า หากสถานการณ์นี้ยังไม่ดีขึ้น พวกเขาอาจต้องหยุดการขายองุ่นไชน์มัสคัสชั่วคราว หรืออาจไม่สั่งเข้ามาจำหน่ายอีกเลย เนื่องจากต้องแบกรับความเสี่ยงต่อยอดขายและขาดทุนหนักกว่าที่เคยเป็นมา ทั้งยังต้องเผชิญกับปัญหาสินค้าเน่าเสียที่ยิ่งเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย จึงหวังให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องสารเคมีเข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจัง และช่วยกำหนดมาตรการป้องกันเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอีกครั้ง

ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา

© 2021 thairemark.com