ด่านศุลกากรสะเดา “ใหม่และเดิม” เปิดคู่ขนานกัน ด่านใหม่เป็นส่วนรถบรรทุก ด่านเดิมเป็นรถส่วนบุคคล รถโดยสารท่องเที่ยว เพิ่มเจ้าหน้าที่ทั้งศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ไม่กระทบชุมชนอาชีพ ประกอบการ เศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยว “ด่านนอก” ชายแดนไทย มาเลเซีย ทาง ตม.จะใช้ออนไลน์แทนเอกสารกระดาษ อนุญาตการเดินทางเข้าออก
ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่สงขลา เปิดเผยว่า นายอรรถชาญ เชาวน์วานิชย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) ได้ลงพื้นที่พร้อมกับคณะติดตามการเปิดใช้งานด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา แนวพรมแดนไทย มาเลเซีย บ้านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเคดาห์ แห่งใหม่ ตามที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการถึงความกังวลกรณีการเปิดด่านแห่งใหม่ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชน บ้านด่านนอก ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวรายใหญ่ ชายแดนไทย มาเลเซีย
ดร.สิทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ได้รับการยืนยันว่าแผนการเปิดใช้งานด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ โดยจะเปิดใช้งานคู่ขนานทั้งใหม่และเดิมคือด่านเดิม เพื่อการเดินทางเข้า-ออกประเทศของรถนักท่องเที่ยวยังสามารถใช้งานได้ทั้งด่านใหม่และด่านเดิม โดยในส่วนรถบรรทุกจะบังคับเดินทางเข้าออกทางด่านใหม่ ส่วนด่านเดิมจะเป็นรถส่วนบุคคล รถโดยสาร รถบริการนักท่องเที่ยว และรถดังกล่าวก็ยังเดินทางไปใช้บริการเข้าออกด่านแห่งใหม่ก็ได้
ดร.สิทธิพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า โครงการการด่านแห่งใหม่และด่านเดิม ทางสำนักงานศุลกากรและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มีการเตรียมความพร้อมโดยมีแผนรองรับไว้แล้วโดยการขออัตรากำลังเจ้าหน้าที่ืเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการปฎิบัติงานทั้ง 2 ด่านพร้อมกัน
การเปิดทั้ง 2 ด่าน ทั้งด่านใหม่และด่านเดิมพร้อมกัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อด่านเดิมที่เป็นเส้นทางเดินทางเข้าออก บ้านด่านนอก ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยว แต่กระทบบ้างในช่วงตอนกลางคืน เนื่องจากรถบรรทุกสินค้าจะเดินทางเข้าออกทางด่านใหม่
แต่ก็จะส่งผลดีต่อด่านเดิม ในการอำนวยความะดวกในการเดินทางเข้าออกได้เร็วขึ้นในวันเทศกาลสำคัญ วันหยุดยาวของฝั่งไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเดินทางเข้าออกท่องเที่ยวกันมาก ซึ่งมักจะเป็นอุปสรรคในการอำนวยความสะดวกเกิดรถติดเป็นเวลาหลายชั่วโมง ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ดี
โดยถนนฝ่ายประเทศมาเลเซีย จะมีระยะทางยาว 820 เมตร จะเริ่มก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม 2567 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2568 และส่วนถนนฝ่ายไทยจะก่อสร้างระยะที่ 2 ระยะทาง 300 เมตร คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนตุลาคม 2567 และจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2568 และคาดการณ์ว่าจะเปิดบริการทั้ง 2 ด่าน ด่านใหม่และด่านเดิมประมาณปี 2568 หรือ 2569
ทางด้านตรวจคนเข้าเมือง ดร.สิทธิพงษ์ กล่าวว่า พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) พร้อมภาครัฐ เอกชน สถานกงสุลจีน อินโดนีเซีย และสถานกงสุลมาเลเซีย ได้หารือแลกเปลี่ยนและเสนอความเห็นและจะรับไปดำเนินการพิจารณา
เช่น เฉพาะประเด็นเรื่องเอกสารการเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งขณะเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศจะใช้เป็นระบบออนไลน์แทนเอกสารที่เป็นกระดาษ และการจัดสร้างเครือข่ายตัวแทนการประสานระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ของ ตม. กับภาคเอกชน
“ทั้งนี้เพื่อประสานงานระหว่างกันในการอำนวยความสะดวกกับผู้เดินทางเข้าออก นักท่องเที่ยว ซึ่งทาง สตม.ให้การตอบรับที่จะดำเนินการเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และเชื่อว่าจะขยายให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาท่องเที่ยวไทย เป็นจำนวนมากขึ้น”.