Tuesday, 21 May 2024 - 12 : 30 am
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

เอกชนห่วงภาพลักษณ์ข้าวไทยพังพินาศ หากส่งออกข้าวค้างทศวรรษสู่สายตาโลก

นครราชสีมา -เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคอีสานยัน ข้าวเก่า 10 ปี ไม่ควรนำมาบริโภค ชี้ “ภูมิธรรม” กินโชว์สื่อเป็นความผิดพลาดมหันต์ ห่วงภาพลักษณ์ส่งออก จี้รัฐบาลเร่งนำข้าวเก่าออกมาประมูลให้หมดโดยเร็ว

จากกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำตัวอย่างข้าวจาก 2 โกดังสุดท้าย ในโครงการรับจำนำข้าวยุคนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเก็บไว้นานกว่า 10 ปี มาซาวถึง 15 น้ำ ก่อนจะหุงและนำมารับประทานร่วมกันกับตัวแทนทั้งภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชน เพื่อให้ร่วมเป็นสักขีพยานว่าข้าวในโครงการนี้แม้ 10 ปีแล้ว ยังสามารถรับประทานได้ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารในสังคมเป็นวงกว้างอยู่ในขณะนี้นั้น

ล่าสุด วันนี้ (9 พฤษภาคม 2567) นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในฐานะผู้ประกอบการโรงสีข้าวรายหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนเองไม่สามารถบอกได้ว่าข้าวที่โกดังดังกล่าวนั้น เหมือนกันทุกกองหรือไม่ แต่เท่าที่สังเกตดูจากข่าว ก็เห็นว่าลักษณะของข้าวค่อนข้างสะอาดไม่สกปรกมากนัก อาจจะเห็นมีมอดอยู่บ้าง ซึ่งจากประสบการณ์ในวงการค้าข้าวนั้น ถ้าข้าวที่อยู่ในลักษณะนี้จะต้องมีการรมยาเป็นอย่างดี และสภาพโกดังเก็บก็ต้องไม่มีความชื้น ดังนั้นโกดังดังกล่าวก็คงจะมีการจัดเก็บดูแลข้าวไว้อย่างดี

แต่ด้วยสภาพข้าวเก่าที่มีการจัดเก็บและรมควันมาเป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี จนข้าวมีสภาพเป็นสีเหลืองแล้ว จึงไม่สมควรที่จะนำมาบริโภค และเชื่อว่าคงจะไม่มีใครอยากจะนำมาบริโภคแน่นอน แต่การที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาโชว์การรับประทานข้าว 10 ปี ต่อหน้าสื่อมวลชน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารในสังคมวงกว้างนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่เสียหายต่อรัฐบาลมาก เพราะการประมูลข้าวในโกดัง แม้จะเป็นของรัฐบาลก็ตาม ก็ควรจะเน้นไปที่การประมูลให้ข้าวหมดจากสต็อกไป ส่วนผู้ประมูลจะนำข้าวที่ประมูลชนะไปทำอะไรนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง รัฐบาลไม่ต้องมาชี้นำว่าข้าวที่ประมูลไปนั้นสามารถรับประทานได้หรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าผู้ประมูลเขาก็คงจะไม่เอาข้าวเก่า 10 ปี ไปบรรจุถุงออกมาวางขายสำหรับนำไปหุงรับประทานแน่นอน ส่วนใหญ่จะนำไปเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อาหารสัตว์ เป็นต้น

ถึงอย่างไรก็ตาม ในส่วนของการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศนั้น ผู้ประกอบการส่งออกก็ไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลอะไรเกี่ยวกับการสอดไส้ข้าวเก่าลงในข้าวใหม่ เพราะข้าวเก่า 10 ปี ก็มีลักษณะทางกายภาพที่เป็นสีเหลืองที่ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงสังเกตได้ง่ายมาก คงจะไม่มีใครกล้าเอาชื่อเสียงของบริษัทไปเสี่ยงแน่นอน หากจะนำข้าวเก่าไปส่งออกต่างประเทศ ก็จะต้องบอกคู่ค้าว่าเป็นข้าวเก่าเพื่อทีเขาจะได้นำไปผลิตสินค้าอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการบริโภค แต่จะมีกังวลบ้างเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของประเทศไทย ที่ยังคงมีข้าวเก่าค้างสต๊อกอยู่จำนวนมาก ยังประมูลไม่หมดเสียที ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลเร่งนำข้าวเก่ามาประมูลให้หมดโดยเร็ว.

โดย….ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา

© 2021 thairemark.com