ชลบุรี-ผู้ว่าฯชลบุรีต้อนรับเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย ในโอกาสเดินทางเยี่ยมเยือนกระชับความสัมพันธ์และสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศอินโดนีเซียและประเทศไทยระดับท้องถิ่นเชื่อมโยงการค้า การลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับและหารือข้อราชการกับนายระห์หมัด บูดีมัน (H.E. Mr.Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย ในโอกาสเดินทางมาเยือนจังหวัดชลบุรี เพื่อแนะนำตัวและเชื่อมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศอินโดนีเซียและประเทศไทยระดับท้องถิ่น และรับข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่นและเชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
โดยมีน.ส.อสิตรา รัตตะมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กิตติสิริพรกุล รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี น.ส.สุดินา แก้วดี ท้องถิ่นจังหวัดชลบุรี น.ส.อังศุมาลิน ฉัตรสุวรรณวารี อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีี นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ร่วมให้การต้อนรับและหารือข้อราชการ
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า การปรับตัวทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในสภาวะวิกฤตโควิด -19 ของจังหวัดชลบุรี เราต้องยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวให้เกิดความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวมากขึ้น การดูแลและให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยนักท่องเที่ยว พัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการ การจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้านแนวโน้มการลงทุนของชาวต่างชาติในพื้นที่ EEC จังหวัดชลบุรีเรามีแผนนโยบายและการชี้นำการพัฒนาพื้นที่ทางกายภาพระดับจังหวัด อำเภอ เมือง และชุมชน ให้มีความสอดคล้องกับศักยภาพและทิศทางการพัฒนาพื้นที่อย่างบูรณาการ
ภายใต้ยุทธศาสตร์ประเทศ แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและขนส่ง รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินแผนพัฒนาอยู่ ซึ่งจังหวัดชลบุรีเรามีความพร้อมที่จะต้อนรับนักลุงทุนต่างชาติ เชื่อมั่นว่าการพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศกำลังส่งสัญญาณดีขึ้นและจังหวัดชลบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรมใหญ่ที่เกิดธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย มีแผนจะเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์กับทุกจังหวัดของไทย ทั้งนี้เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-อินโดนีเซีย ในด้านเศรษฐกิจการลงทุน การท่องเที่ยว การเกษตร และแลกเปลี่ยนประเพณีวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน