สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รายงานถึงความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย -อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือ แลนด์บริดจ์ มูลค่า 1 ล้านล้านบาท ว่าหลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะเริ่มดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนต่างประเทศ (Road Show) ภายในเดือนพฤศจิกายน นี้ เพื่อนำมาประกอบในการจัดทำร่างเอกสารเชิญชวนผู้ลงทุนในการร่วมลงทุนโครงการ เบื้องต้นสนข.มีแผนเตรียมเดินทางไปโรดโชว์ ในต่างประเทศที่มีสายการเดินเรือขนาดใหญ่ใน ได้แก่ กลุ่มจีน กลุ่มซาอุดิอาระเบีย กลุ่มยุโรป และกลุ่มดูไบ
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะเสนอนายรายชื่อคณะกรรมการติดตามความคืบหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบภายในเร็วๆนี้ ส่วนแผนการเดินทางไปโรดโชว์คาดว่าจะใช้เวลาภายใน เดือน พ.ย.2566 ถึงต้นปี 2567 และจะจัดทำกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ภายในปี 2567 และจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายและสำนักงานนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ในช่วง ธ.ค. 2567 จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลรายละเอียดต่างๆเพื่อที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติเพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการต่อไป
ทั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP)ภายในเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2568 ควบคู่กับการดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เวนคืนที่ดิน และจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในช่วง ม.ค. 2568-ธ.ค. 2569 หลังจากนั้นจะเสนอ ครม.อนุมัติลงนามในสัญญาภายใน ก.ค.-ส.ค. 2568 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างใช้ระยะเวลา 5 ปี หรือ ก.ย. 2568-ก.ย. 2573 และเปิดให้บริการใน ต.ค. 2573
สำหรับผลการศึกษาเบื้องต้น การพัฒนาแลนด์บริดจ์ประมาณมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย1. การก่อสร้างท่าเรือ มูลค่าลงทุนรวม 636,477 ล้านบาท (ท่าเรือฝั่งชุมพร มูลค่าลงทุน 305,666.44 ล้านบาท รองรับสินค้า 20 ล้านทีอียู, ท่าเรือฝั่งระนอง มูลค่าลงทุน 330,810.56 ล้านบาท รองรับสินค้า 20 ล้านทีอียู) 2. การพัฒนาพื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า (SRTO) มูลค่าลงทุนรวม 141,103.47 ล้านบาท (ฝั่งชุมพร มูลค่าลงทุน 86,397.85 ล้านบาท ฝั่งระนอง มูลค่าลงทุน 54,705.62 ล้านบาท) และ 3. เส้นทางเชื่อมโยงชุมพร-ระนอง ได้แก่ มอเตอร์เวย์ และรถไฟทางคู่ มูลค่าลงทุนรวม 223,626 ล้านบาท
ทั้งนี้โครงการแลนด์บริดจ์จะก่อให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมขนาดเบา เช่น การประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์อนาคต อาหาร กิจกรรมด้านโลจิสติกส์ ศูนย์กระจายสินค้า เครื่องมือและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขนถ่ายสินค้า และส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้โดยการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานบันเทิง ร้านค้าต่างๆ ระหว่างเส้นทางโครงการ เป็นต้น
