ปัญหาลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนไม่เพียงแต่สร้างหายนะต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยทั่วประเทศเพราะหมูนำเข้ามีราคาถูกเมื่อเทียบกับหมูภายในประเทศ ส่งผลให้เกษตรกรรายย่อต้องปิดเล้าหมูหนีการขาดทุนย่อยยับเนื่องจากแบกรับภาระต้นทุนสูงลิ่วไม่ไหว แต่หลังจากรัฐบาลเดินหน้าปราบปรามขบวนการลักลอบผิดกฎหมายอย่างจริงจังพร้อมกับยึดของกลางเป็นจำนวนมากเก็บไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
อย่างไรก็ตามหลังกระบวนการสิ้นสุดทางกฎหมายจำนวนหมูหลายล้านตันที่เก็บไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือแหลมฉบังจำเป็นต้องฝังกลบทิ้งโดยมีเป้าหมายคือพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลหาดนางแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดเนื่องจากชาวบ้านตำหาดนางแก้วต่างก็รวมตัวออกมาคัดค้านไม่ให้เจ้าหน้าที่ขนย้ายซากหมูเถื่อนจากแหลมฉบังกว่า 3 ล้านกิโลกรัมมาฝังกลบในพื้นที่เนื่องจากหวั่นวิตกก่อมลพิษสิ่งแวดล้อมทั้งบนดินและน้ำใต้ดิน
ทางออกปัญหาดังกล่าวทางกรมปศุสัตว์และกรมสืบสวนสอบสวนพิเศษ(ดีเอสไอ)ต้องทำเวทีประชาชนระดมความคิดเห็นประชาชนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ที่ตำบลหาดบางแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี โดยมติประชาคมทั้ง 2 ตำบลดังกล่าวต่างก็ไม่เอาซากหมูเถื่อนจากแหลมฉบังมาฝังกลบในพื้นที่ เพราะเป็นห่วงเรื่องอันตรายด้านสิ่งแวดล้อมที่มี ผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและเรื่องโรคระบาดสัตว์ตามมา
นายสัตวแพทย์เพิ่มพร ฉายเพิ่มศักดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ต้องยอมรับมติของประชาชนที่มาร่วมประชาคมในครั้งนี้ ซึ่งชาวบ้านทุกคนขอคัดค้านมิให้นำซากสัตว์มาฝังกลบในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำเรื่องทั้งหมด นำเสนอต่อส่วนที่เกี่ยวข้องระดับสูงให้ทราบต่อไป
ด้าน น.ส.นพวรรณ สามพล ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า ตนเองและชาวบ้านทุกคน รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียง ขอคัดค้านการที่จะนำซากหมูมาฝังในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆชาวบ้านทุกคนขอคัดค้านไม่ให้นำซากสัตว์มาฝังกลบในพื้นที่เด็ดขาด เพราะพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านอาศัยแหล่งน้ำ และใช้บ่อน้ำตื้นทำการเกษตรเลี้ยงชีพ เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำเสียไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้ในการเกษตรมีมลพิษในพื้นที่ น.ส.นพวรรณกล่าว
ขณะที่นายสุนทร คมคาย อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน อ.กบินทร์บุรี (ทสม.) NGO. และ อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีเขต 3 กล่าวว่า ตนเองและชาวอำกบินทร์บุรีและ เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน อ.กบินทร์บุรี (ทสม.) ยืนยันร่วมแสดงพลังในการต่อต้าน ไม่ต้องการการ กรณีที่กรมปศุสัตว์และ DSi ได้ทำการขนย้ายซากหมูเถื่อน140ตู้คอนเทนเนอร์ หรือราว 3ล้านตัน นำมาทำการฝังกลบทำลายซากสุกรของกลางลักลอบนำเข้า หรือ “หมูเถื่อน”ที่พื้นที่ศูนย์วิจัยสัตว์ปีกจังหวัดปราจีนบุรี หมู่ที่ 6 ตำบลหาดนางแก้ว เพราะ ภาวะมลพิษ ,เชื้อโรคระบาด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากการหลอมสารซีเซี่ยม-137 ในตำบลหาดนางแก้ว ไปไม่นาน
ทุกวันนี้วิกฤติภาวะสิ่งแวดล้อมพื้นที่ ต .หาดนางแก้ว,ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มากพอแล้ว เนื้อหมูเถื่อนเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม และเกิดการแพร่เชื้อโรคในสัตว์ตามมา เพราะพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นแหล่งเพาะแม่หมูอันดับ 2 ของประเทศ จะเสี่ยงต่อการตลาด ไม่มีใคอยากได้ลูกหมูเพราะเสี่ยงต่อโรคระบาด
โดย…มานิตย์ สนับบุญ*ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์ – ภาพ / ปราจีนบุรี