เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ร่วมกับจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยการสนับสนุนของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 10 – 19 ตุลาคม 2566 อย่างยิ่งใหญ่ หนึ่งเดียวในประเทศไทยมีตำนานเล่าขานมากว่า 400 ปี
นางสาวญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพิษณุโลก รับผิดชอบการส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า การจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำจังหวัดเพชรบูรณ์ ในปี 2566 นี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 19 ตุลาคม 2566 ณ พุทธอุทยานเพชรบุระ วัดไตรภูมิ และวัดโบสถ์ชนะมาร อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนชาวเพชรบูรณ์ องค์กรเอกชน และหน่วยงานทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีที่มีความเก่าแก่ให้คงอยู่ตลอดไป
ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วยกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ พิธีรำบวงสรวงถวายพระพุทธมหาธรรมราชา วันที่ 11 ตุลาคม 2566 เวลา 17.30 น โดยมีนางรำ 2,566 คน. ในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 เวลา 09.09 น. พิธีบวงสรวงเทพยาดา ณ วัดไตรภูมิ เวลา 17.29 น. ประกอบพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธมหาธรรมราชาจากวัดไตรภูมิ แห่ไปรอบตัวเมืองเพชรบูรณ์ (แห่กลางคืน) ส่วนในวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2566 เวลา 09.09 น. จะเป็นพิธีอุ้มพระดำน้ำ บริเวณท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมทางวิชาการ ขบวนแห่ทั้งทางบกและทางน้ำ การแข่งขันพายเรือทวนน้ำ การแสดงแสงเสียงตำนานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ และเทศกาลอาหารอร่อย ณ พุทธอุทยานเพชรบุระ อีกด้วย
ททท.ได้มีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดในประเทศ โดยมีแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดที่อยู่ในแผนการตลาดนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีแล้ว ยังมีประเพณีสำคัญที่ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ททท. จึงได้ร่วมส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและร่วมเรียนรู้ถึงเอกลักษณ์ของพื้นที่และสัมผัสถึงแรงศรัทธาของชาวเพชรบูรณ์ที่มีต่อประเพณีอันสำคัญนี้ อันจะเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่นในอีกทางหนึ่ง โดยในปีนี้ ททท.สนับสนุนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้เป็นที่รับรู้อย่างแพร่หลาย
สำหรับประเพณีอุ้มพระดำน้ำเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานมากว่า 400 ปี โดยมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ออกหาปลาในแม่น้ำป่าสักได้พบเหตุอัศจรรย์ขึ้น คือ กระแสน้ำในบริเวณวังมะขามแฟบ มีพรายน้ำผุดขึ้นมาทีละน้อยจนแลดูคล้ายน้ำเดือด จากนั้นกลายเป็นวังวนดันเอาองค์พระพุทธรูปองค์หนึ่งลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ทำให้ชาวประมงต้องลงไปอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดไตรภูมิ ในปีถัดมาตรงกับวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 ซึ่งเป็นวันประเพณีสารทไทย พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวได้หายไป ชาวบ้านต่างพากันตามหา
สุดท้ายไปพบพระพุทธรูปกำลังดำผุดดำว่ายอยู่กลางแม่น้ำป่าสักบริเวณที่พบพระพุทธรูปองค์นี้ในครั้งแรก จึงได้ร่วมกันอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดไตรภูมิ อีกครั้งหนึ่ง พร้อมร่วมกันถวายนามว่า “พระพุทธมหาธรรมราชา” หลังจากนั้นต่อมาในวันสารทไทย หรือวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 เจ้าเมืองเพชรบูรณ์จะทำพิธีอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาลงประกอบพิธีดำน้ำเป็นประจำทุกปี โดยเชื่อว่าจำทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ประชาชนมีความสุข บ้านเมืองปราศจากโรคระบาดคุกคาม จนกลายมาเป็นประเพณีอุ้มพระดำน้ำอันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน