ภายหลังมติที่ประชุมร่วมรัฐสภาผ่านความเห็นชอบให้ “นายเศรษฐา ทวีสิน” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ประชาชาทั่วประเทศต่างดีใจที่ได้รัฐบาลใหม่ภายใต้การบริหารประเทศของพรรคเพื่อด้วยความหวังว่าจะนำพาเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีเหมือนในอดีต แต่ส่วนใหญ่ยังค่อยปักใจเชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้จริงไหม…?เพราะรัฐบาลขั้วผสมที่ดึงพรรคอำนาจเก่า ก๊วนเดิม เพิ่มเติมคือเพื่อไทย
เช่นเดียวกับชาวจังหวัดขอนแก่นซึ่งจากการสอบถามประชาชนที่เดินซื้อของในตลาดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น ล้วนยังคงไม่มั่นใจในรัฐบาลชุดนี้ว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้จริง เพราะมีแต่คนเดิม เพิ่มเติมคือพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศแทน
น.ส.อารยานี เนียมประดิษฐ์ ผู้จัดการตลาดบางลำภู ขอนแก่น สะท้อนความมุมมองว่า นโยบายตอนหาเสียงเป็นนโยบายที่เอาเงินมาให้ประชาชนจริงๆถ้าทำได้ทั้งหมดโดยไม่มีผลสะเทือนใดๆถือว่าจะเป็นผลที่ดีมาก เพราะประชาชนได้ผลประโยชน์และมีเงินทุนหมุนเวียนในระดับล่างๆของคน 95 % ของประเทศ
“ถ้าเป็นแบบที่หาเสียงไว้จริงการจับจ่ายใช้สอยน่าจะดีขึ้น แต่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ไม่มั่นใจกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิม จะเอาเงินมาจากไหนถ้าจะให้หมดทุกนโยบายที่หาเสียงไว้เพราะรู้สึกว่าทุกพรรคการเมืองทั้งใหม่และเก่ามารวมกันหมดแล้ว ที่สัญญาว่าจะให้อะไรกับประชาชนทั้ง ค่าแรง เงินดิจิตอล 10,000 บาท เงินผู้สูงอายุ 3,000 บาท ถ้าได้หมดนี่จริงๆจะดีมาก แต่จะเอาเงินที่ว่ามาจากที่ไหน คงต้องอาศัยความเก่งความเก๋าของคณะรัฐบาลว่าจะมีอะไรออกมาเพราะเท่าที่ฟังมีแต่นโยบายการเงินทั้งนั้น แต่จะทำยังไงให้ยั่งยืนมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจริงๆ”
น.ส.อารยานี บอกอีกว่า นโยบายเงินดิจิตอล 10,000 บาท คงเป็นนโยบายที่หลายๆคนรอคอย ถ้าออกมาไวจะมีสภาพคล่องมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีความมั่นใจต่อให้ได้ทุกนโยบายที่หาเสียงไว้จริงๆก็ยังไม่มีมั่นใจเพราะอย่าลืมว่าคนไทยตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 มาจนถึงวันนี้มีแค่บางคนเท่านั้นที่กลับมาฟื้นขึ้นมามาได้ แต่หลายคนก็พังยังไม่ฟื้นกลับมา ถ้าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ตามที่นโยบายหาเสียงไว้ ถ้าได้600 บาท ผู้ประกอบการจะพังหมดล้มละลายกันไปหมด ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างน้อยเป็นนักธุรกิจมา ต้องมีหัวสมองที่ดี เพราะนักธุรกิจต้องคิดเป็น หลบหลีกได้แต่ถ้าเป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติทำแล้วประเทศดีขึ้นก็น่าจะเป็นผลดี และคิดว่าเศรษฐกิจหลังจากนี้จะดีขึ้น
ไม่แตกต่างกับความคิดเห็นของนายไชยา ยอดระบำ อายุ 58 ปี พ่อค้าตลาดสดบางลำภู กล่าวว่า โดยส่วนตัวคิดว่าเศรษฐกิจก็ไม่น่าจะดีขึ้นจากเดิมเพราะหน้าตารัฐตรีก็มีแต่คนเดิมเพิ่มแค่พรรคเพื่อไทยมาด้วย กับเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีแต่ทุกอย่างเหมือนเดิมหมด นายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่น่าจะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้จริงเพราะว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจมันต้องใช้เวลา
“รัฐบาลชุดนี้น่าจะอยู่ได้ไม่ยาวอาจจะเกิดขึ้นความขัดแย้งกันขึ้นภายในรัฐบาล นโยบายเงินดิจิตอล 10,000 บาท มันจะไม่เกิดขึ้นจริงเพราะต้องมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกเหมือนกับรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่จะให้ต่างๆนานา สุดท้ายก็ทำไม่ได้เพราะพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยถ้าจะได้จริง 10,000 บาท ต้องเป็นรัฐบาลพรรคเดียวอย่างนั้นทำได้แน่นอน”
ตอนนี้ยังไม่มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดใหม่เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงและนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่มีอะไรมีแค่แก้รัฐธรรมนูญ ไม่รู้ว่าประชาชนจะได้อะไรจากการแก้รัฐธรรมนูญประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรนอกจากนักการเมืองด้วยกัน ท้ายสุดประชาชนยังคงต้องพึ่งพาตนเอง มัวแต่รอความหวังจากรัฐบาลปากท้องคงอดยาก ปากแห้ง
