ขอนแก่น-แบงค์ชาติอีสานเผย เศรษฐกิจไตรมาสแรกของของปีการค้าชายแดนโตขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัว คาดไตรมาสสุดท้ายของปีทรงตัวเพราะความไม่แน่นอนในเรื่องงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโสธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจของภาคอีสานไตรมาสที่ 2 ของปี ฟื้นตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนแต่ก็ยังคงหดตัวลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเรื่องของการอุปโภคบริโภค หดตัวต่อเนื่องจากสินค้าคงทนที่หดตัว ตามความเข้มงวดในการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน การใช้จ่ายในสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้ากึ่งคงทนหดตัวจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐที่น้อยกว่าปีก่อน และค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การใช้จ่ายในหมวดบริการขยายตัวเล็กน้อยตามการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงวันหยุดยาว เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชน ที่หดตัวลดลงเช่นกันดูได้จากการลงทุนด้านก่อสร้างที่ขยายตัว ตามปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ และการลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่หดตัวลดลงจากการนำเข้าสินค้าทุน และยอดจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ยังหดตัวต่อเนื่องหลังจากเพิ่มสูงจากความต้องการออกรถเพื่อลงทุนประกอบอาชีพในช่วงการระบาดของโควิด 19
“แต่ยังคงมีปัจจัยบวกจากการค้าผ่านด่านศุลกากร ขยายตัวต่อเนื่อง แยกเป็นการส่งออก ที่ขยายออกจากการส่งออกทุเรียนไปจีน, ยานยนต์, ผลไม้เครื่องดื่มไปลาว ,ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, อาหารและเครื่องดื่มไปเวียดนาม ตามความต้องการของตลาดที่มีต่อเนื่อง ขณะที่การนำเข้าก็ขยายตัวเช่นกัน ในทุกหมวดสินค้า ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ,คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ โดยมีอานิสงค์จากผลของการเปิดประเทศ เช่นเดียวกันกับรายได้เกษตรกรที่ ขยายตัวต่อเนื่องจากผลผลิตเป็นสำคัญ ตามผลผลิตของยางพาราจากปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอในปีก่อนช่วยให้เจริญเติบโตได้ดีและพื้นที่กรีดยางที่เพิ่มขึ้น และข้าวนาปรังที่ได้รับผลดีจากปริมาณน้ำที่เพียงพอในช่วงเพาะปลูก ขณะที่ราคาหดตัวจากราคายางพาราตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้นและความต้องการของต่างประเทศลดลง”
นายทรงธรรม กล่าวต่ออีกว่า ในด้านของภาคอุตสาหกรรม ยอมรับว่าหดตัวลดลงตามการผลิตยางพาราแปรรูปที่ยังขยายตัวตามผลผลิตยางพาราที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอหดตัวต่อเนื่องตามความต้องการของประเทศคู่ค้า ด้านแป้งมันสำปะหลังหดตัวตามผลผลิตที่ลดลงจากผลกระทบของอุทกภัยในปีก่อน สำหรับการท่องเที่ยว นั้นก็ขยายตัวชะลอลง ตามฤดูกาลโดยเฉพาะกลุ่มประชุม สัมมนาภาครัฐ หลังจากเร่งไปในไตรมาสก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวต่อเนื่องตามการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่โดยเฉพาะจังหวัดริมแม่น้ำโขง เช่นที่นครพนม ช่วยกระตุ้นอัตราการเข้าพักให้เพิ่มขึ้น
“ด้านอัตราเงินเฟ้อ ลดลง ตามราคาพลังงานและอาหารสด โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ตลาดแรงงาน ทรงตัว ตามจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ใกล้เคียงเดิม อย่างไรก็ตาม ธปท.ภาคอีสานคาดการณ์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจภาคอีสาน ครึ่งหลัง ปี 2566ยังมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ภัยแล้งที่คาดว่ารุนแรงมากขึ้นและความไม่แน่นอนของงบประมาณของภาครัฐ ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมล่าช้า ประกอบกับเศรษฐกิจฐานรากยังอ่อนแรงทำให้การบริโภคและการลงทุนหดตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมหดตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน”