ภาคเอกชนขอนแก่นเห็นด้วย หลัง สว.เตรียมชง “ประยุทธ์” แจกคนละ 500 บาทมาเลือกตั้ง เพราะเป็นการลดรายจ่ายและกระตุ้นให้คนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้อย่างชัดเจน เทียบเคียงคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน วอนจัดสรรงบและพิจารณาได้ทันในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 24 ม.ค.2565 นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ จ.ขอนแก่น ว่า การที่สมาชิกวุฒิสภา ได้พิจารณาเห็นชอบและผ่านวาระการประชุมว่าด้วยรายงานศึกษาแนวทางการส่งเสริมและการพัฒนาการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม ตามที่คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนวุฒิสภา ได้เสนอต่อที่ประชุม สว. และไม่มีการโต้แย้งใดๆ หรือ สว.คนใดคัดค้าน ซึ่งถือว่าที่ประชุมเห็นชอบและเสนอต่อรัฐบาลนำไปพิจารณานั้น ซึ่งสาระที่สำคัญคือการที่รัฐจ่ายค่าเดินทางให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง คนละ 500 บาท สำหรับการเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ทั่วทั้งประเทศ 40 ล้านคน วงเงินใช้จ่าย 20,000 ล้านบาท ซึ่งในประเด็นดังกล่าวในมุมมองของภาคธุรกิจเอกชนและเป็นประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนั้นตนเองเห็นด้วยอย่างมาก เพราะถือเป็นแรงจูงใจที่จะให้ทุกคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและยังคงสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างมาก
” ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าคนส่วนยใหญ่มาทำงานที่ต่างจังหวัดและไม่ได้ทำงานที่ภูมิลำเนาหรือในเขตที่ตนเองเลือกตั้ง ดังนั้นในการเลือกตั้งแต่ละครั้งต้องเดินทางกลับบ้านไปเลือกตั้งตามทะเบียนบ้านที่มีอยู่ ซึ่งถือเป็นรายจ่ายที่หลายคนกังวลและเป็นรายจ่ายที่หลายคนยอมที่จะเสียสิทธิ์และไม่กลับไปเลือกตั้ง ดังนั้นการที่ สว. มีการเสนอรายงานแนวทางดังกล่าวขึ้น ถือเป็นการมองที่ตรงจุด เพราะจะกระตุ้นให้คนไทยนั้นมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันให้มากขึ้น ทั้งยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆโดยรวมในช่วงของการเลือกตั้งได้อย่างมาก เพราะคน 40 ล้านคน ได้รับคนละ 500 บาท จะมีเงินสะพัดกว่า 20,000 ล้านบาทเลยทีเดียว”
นายชาญณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการจ่ายเงินคนละ 500 บาทนั้นรัฐบาลมีเกณฑ์และแนวทางที่ดำเนินการอยู่แล้ว จากหลายโครงการที่ทำมา ทั้งโครงการคนละครึ่ง,เราเที่ยวด้วยกัน หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อีกทั้ง 40 ล้านคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งรัฐบาลมีรายละเอียดของแต่ละบุคลอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่รัฐบาลจะพิจารณาการจ่ายเงินดังกล่าวได้ ซึ่งก็ขอให้รัฐบาลได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุดและสามารถมีผลบังคับใช้ที่ทันต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้