นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้จัดอันดับธุรกิจดาวเด่น 10 ธุรกิจ ที่มีแนวโน้มเติบโตช่วงปลายปี 65 หลังจากเปิดประเทศ โดยวิเคราะห์จากข้อมูลทางธุรกิจของกรม ได้แก่ สถิติการจดทะเบียน จำนวนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ งบการเงิน ผลประกอบการ ซึ่งพบว่า ทั้ง 10 ธุรกิจ อยู่ใน 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มแรก คือ กลุ่มธุรกิจที่สอดรับกับปัจจัยการเปิดประเทศ ได้แก่ 1.ธุรกิจร้านอาหาร 2.ธุรกิจจองที่พักและการเดินทาง 3.ธุรกิจผับบาร์และสถานบริการกลางคืน และ 4.ธุรกิจการจัดประชุมและสัมมนา (MICE) ธุรกิจกลุ่มนี้ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดประเทศ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของภาครัฐ เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน อีกทั้งฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญของประเทศในช่วงสิ้นปี ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโต
นายสินิตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มสอง เป็นกลุ่มธุรกิจที่สอดรับกับการหันมาดูแลสุขภาพของผู้บริโภค ได้แก่ 1.ธุรกิจขายปลีกสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ จัดตั้งใหม่ 33 ราย เพิ่มขึ้นถึง 200 เท่า อีกทั้งในปี 64 มีกำไรสูงถึง 155.31 ล้านบาท 2.ธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม จัดตั้งใหม่ 506 ราย เพิ่มขึ้น 1 เท่า และมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงถึง 1,270 ล้านบาท 3.ธุรกิจปลูกพืชประเภทเครื่องเทศ เครื่องหอม ยารักษาโรค และพืชทางเภสัชภัณฑ์ จัดตั้งใหม่ 254 ราย เพิ่มขึ้น 57% มูลค่าทุนจดทะเบียน 620.20 ล้านบาท เพราะได้รับอานิสงส์จากการแพร่ระบาดโควิด ส่งผลให้ประชาชนใส่ใจในสุขภาพของตนเองมากขึ้น และมีความต้องการใช้สมุนไพรเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้สมุนไพรไทยในการรักษาหรือบรรเทาอาการ เช่น ฟ้าทะลายโจร สารสกัดหอมแดงในรูปแบบนาโน
ขณะที่กลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มธุรกิจที่สอดรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ ซึ่งมีการเติบโตสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ได้แก่ 1.ธุรกิจการค้าออนไลน์ จัดตั้งใหม่ 1,214 ราย เพิ่มขึ้น 12.51% โดยทั้งปี 64 มีรายได้รวมกันสูงถึง 135,856 ล้านบาท 2.ธุรกิจอาหารแช่แข็ง ที่ให้ความสะดวก ง่าย และรวดเร็ว ตอบสนองวิถีชีวิตในรูปแบบปัจจุบัน จัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น 1 เท่า และ 3.ธุรกิจยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า.