ตำรวจ ปส.ตามจับเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ภาคอีสาน รวบ 4 ผู้ต้องหา ยึดของกลางยาบ้ากว่า 6.4 ล้านเม็ด พบ 1 ในผู้ต้องหาเพิ่งพ้นเรือนจำ-แต่ยังไม่เข็ด
ตามนโยบายการมุ่งเน้นแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ในการปราบปรามผู้ผลิตและผู้ค้ายาเสพติด โดยใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจังและเด็ดขาด รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน หรือใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่าน และใช้มาตรการยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ตามนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาล
ทั้งนี้ในช่วงเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.บก.ปส.2 ร่วมจับกุม 4 ผู้ต้องหา คือ นายจงกล, นายบุญมี, น.ส.สุจิตรา และนางสำราญ ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร ต่อเนื่องริมถนนสาย 22 ถนนนิตโย อ.พังโคน จ.สกลนคร และริมถนนสาย 22 ถนนนิตโย อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งก่อนการจับกุมครั้งนี้ ตำรวจ ปส.ได้ติดตามพฤติการณ์ของขบวนการค้ายาเสพติด ที่มี นางสำราญ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ที่เพิ่งถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ และพบว่า นางสำราญ ยังมีการสั่งการให้เครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดลอตใหญ่ให้ลูกค้า จึงเฝ้าสืบสวนติดตามพฤติการณ์
ต่อมาวันที่ 12 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 21.30 น. ตำรวจ ปส.2 ได้ติดตามรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน กทม. รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กทม. และรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียนสกลนคร ซึ่งขับขี่อยู่ในพื้นที่ จ.สกลนคร เมื่อไปถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.คำตากล้า จ.สกลนคร ตำรวจ ปส.2 จึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน กทม. ที่มี นายจงกล เป็นคนขับ ผลการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 6,440,000 เม็ด อยู่ในรถคันดังกล่าว ซึ่ง นายจงกล ยอมรับว่า เป็นยาเสพติดที่กำลังขนไปส่งลูกค้าในพื้นที่ตอนใน ตำรวจ ปส.2 จึงแจ้งข้อหาจับกุมและยึดยาเสพติดไว้เป็นของกลาง จากนั้นได้ติดตามไปสกัดจับกุม รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กทม. ได้ที่บริเวณ อ.พังโคน จ.สกลนคร ที่มี นายบุญมี เป็นคนขับ และมี น.ส.สุจิตรา นั่งมาด้วย ซึ่งทั้ง 2 คน ยอมรับว่าทำหน้าที่เป็นรถนำทาง คอยสังเกตการณ์ให้รถขนยาเสพติด อีกทั้งตำรวจ ปส.2 ยังได้ติดตามไปจับกุม รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียนสกลนคร ได้ที่บริเวณ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ที่มี นางสำราญ เป็นคนขับได้อีก 1 คัน ซึ่งยอมรับว่าทำหน้าที่เป็นรถนำทางให้รถขนยาเสพติด
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด ทราบว่า การขนยาเสพติดครั้งนี้ใช้รถยนต์ถึง 3 คัน เนื่องจากผู้ต้องหากลุ่มนี้เคยถูกจับมาแล้ว จึงเพิ่มความระมัดระวัง โดยใช้รถยนต์คันแรกเป็นรถนำทางด้านหน้า เพื่อตรวจดูด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดูรถที่ติดตามขบวนยาเสพติด ส่วนรถยนต์คันที่ 2 เป็นรถบรรทุกยาเสพติด และรถยนต์คันสุดท้ายทำหน้าที่ปิดท้ายขบวน คอยคุ้มกันรถบรรทุกยาเสพติด จากนั้น ตำรวจ ปส.2 จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ปส.2 ดำเนินคดี และสอบสวนขยายผลหาผู้สั่งการ และกลุ่มขบวนการยาเสพติดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์ตามกฎหมาย เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดต่อไป
