บช.สอท. เปิดปฏิบัติการล่าขุมทรัพย์ ราชาคริปโตฯ Ep.3 บุกค้นบ้านหรู 2 หลัง ย่านพระราม9-ศรีนครินทร์-สะพานสูง หาหลักฐานโยงเครือข่ายจีนแสบหลอกตุ๋นลงทุนข้ามชาติ พบหลักฐาน เอกสารโยงคดีอื้อ พ่วงโฉนดที่ดิน ห้องชุดคอนโดหรูจำนวนมาก มูลค่ากว่า 300 ล้าน จ่อออกหมายเรียกแจงที่มาของทรัพย์
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. นำกำลังเข้าตรวจค้น 2 จุดในพื้นที่ กทม. ตามปฏิบัติการล่าขุมทรัพย์ราชาคริปโต Ep.3 โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ ค.505/2566 เข้าตรวจค้นบ้าน ในหมู่บ้านนันทวัน พระราม 9-ศรีนครินทร์ แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร มูลค่ากกว่า 45 ล้านบาท พบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทางคดีจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังพบชุดลักษณะคล้ายเครื่องแบบทหารประดับเครื่องหมายผู้กำกับสำรองตรี ระบุชื่อ สมปอง ซู และรูปถ่ายวันประดับเครื่องหมายผู้สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรผู้กำกับกำลังสำรอง รักษาดินแดนรุ่นที่ 34 พร้อมเกียรติบัตร ของสังกัดสมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทยอยู่ในห้องนอน รวมทั้งหนังสือเดินทางระบุชื่อ นายซูเผิงเฟย สัญชาติจีน โดยได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว อีกทั้งได้ทำการตรวจยึดรถยนต์โตโยต้าอัลพาดสีขาว ทะเบียน กย. 909 กรุงเทพมหานคร.,รถยนต์โตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ถ 4605 กรุงเทพมหานคร โฉนดที่ดินอาคารชุด โครงการวัน ไนน์ ไฟว์ อโศกพระราม 9 จำนวน 8 ห้องชุด , โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ ตู้เชพ 1 ตู้ รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เพื่อตรวจสอบ
ต่อมา จุดที่สอง เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.504/2566 เข้าตรวจค้นบ้าน ในซอยกาญจนาภิเษก 12 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ซิน รุ่ย เทคโนโลยี เบื้องต้นไม่พบว่ามีผู้พักอาศัยหรือผู้ดูแลแต่จากการสอบถามข้อมูลจากฝ่ายสถานที่ของโครงการ บ้านหลังดังกล่าวมีผู้ซื้อไปจากโครงการเเล้ว เเต่ยังไม่มีผู้มาพักอาศัยแต่อย่างใด ได้สอบถามฝ่ายขายของโครงการ ได้ข้อมูลว่า บ้านหลังดังกล่าว มีผู้ซื้อจากโครงการเมื่อประมาณเดือน พ.ย.-ธ.ค.65 ใช้ชื่อนิติบุคคล ชื่อซิน รุ่ย เทคโนโลยีเป็นผู้ซื้อจากโครงการ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลจากปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโตฯ Ep.1 และ Ep.2 โดยครั้งนั้นบช.สอท.ได้เข้าตรวจค้น 6 จุด ในย่านศรีนครินทร์ และจับกุมนายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และนางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค.และนายคำเฮง จุลมนตรี สัญชาติลาว ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1654/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน หลังก่อเหตุใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิท ผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิตอลหรือ สินทรัพย์ต่างๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกรม ซึ่งมีผู้เสียหายในพื้นที่สน.ศาลาแดง,สน.โชคชัย และสภ.บางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีความเชื่อมโยงกับนายซูเผิงเฟย หรือนายสมปอง ซู ซึ่งแนวทางสืบสวนเชื่อว่าน่าจะนำเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายมาเล่นแร่แปรธาตุ มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของบริษัทซิน รุ่ย เทคโนโลยี ซึ่งจดทะเบียนวันที่ 26 ต.ค. 2565 ประเภทธุรกิจซื้อขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ และให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทุนจดทะเบียน 49,500,000 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมกับออกหมายเรียก นายสมปอง ซู มาชี้แจงการได้มาซึ่งทรัพย์สิน หากไม่สามารถที่จะชี้แจงได้ก็จะเข้าข่ายในส่วนของความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงินหรือร่วมกันสนับสนุนฟอกเงิน” และ นำทรัพย์สินที่ไม่สามารถชี้แจงได้หรือทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดดำเนินการขายทอดตลาด เพื่อมุ่งหวังคืนให้กลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งจะทำการขยายผลหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือ พยานหลักฐานเชื่อมโยงไปในส่วนใดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป