เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียนจาก นางสาววิไลทรัพย์ ฝอยทอง อายุ 55 ปี โฟร์แมนผู้ดูแลโครงการ ของบริษัท เอ.ซี.เพ้นซ์ จำกัด ว่าทางบริษัท ได้ทำการก่อสร้างโกดังขนาดใหญ่ 2 โกดังมีขนาด 1,161.76 ตารางเมตร/40 เมตร โดยทำเป็นโรงงานเกี่ยวกับงานทำสีรถยนต์พ่นรถยนต์ และ ทำไว้เป็นคลังสินค้า ได้ถูกคนร้ายมาทำการรื้อถอนโกดังทั้งสองออกไปจนหมด โดยได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ก่อนที่ตำรวจจะสิบทราบว่ามีคนร้ายที่ก่อเหตุ 3 คน แต่ตามจับกุมคนร้ายมาได้ 2 คน ซึ่งยังเหลือคนร้ายอีก 1 คนที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ และทางบริษัทคาดว่าน่าจะมีคนร้ายมากกว่านี้ เพราะโกดังขนาดใหญ่ที่สร้างเสร็จพร้อมใช้งาน แต่เพียงแค่ยังไม่ได้เข้าไปกิจการเท่านั้น หายไปทั้งหมด ทั้งตัวอาคารได้อย่างไร อย่างน้องต้องมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ พร้อมด้วยรถบรรทุก จึงจะสามารถขนย้ายสิ่งของทั้งหมดออกไปได้
จากการสอบถาม นางสาววิไลทรัพย์ ฝอยทอง อายุ 55 ปี โฟร์แมนผู้ดูแลโครงการ ของบริษัท เอ.ซี.เพ้นซ์ จำกัด กล่าวว่า โดยโรงงานเราโดนขโมยจึงอยากร้องขอความเป็นธรรม คือเราตามคดีนี้ คดีนานแล้วที่ตำรวจแจ้งเราว่ามี 3 คน ถูกจับไปแล้ว 2 ยังเหลืออีก 1 คน แตเราคิดว่าน่าจะมีคนร้ายมากกว่านี้ แล้วอีกอย่างคดีก็นานแล้ว ก็เลยอยากร้องขอความเป็นธรรมให้ทำคดีให้เร็วที่สุด โดยจุดตรงนี้ทางบริษัทได้สร้างเป็นโรงงานสีพ่นรถยนต์ อยู่บนเนื้อที่ 26 ไร่เศษ แต่พื้นที่ที่สร้างโกดังขนาด 5 ไร่ จำนวน 2 โกดังถูกรื้อทั้งสองโกดัง ซึ่งโกดังดังกล่าวสร้างเสร็จพร้อมใช้งานมีการเดินไฟฟ้าเข้าโรงงานเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ซึ่งทั้ง 2 โกดังพร้อมเปิดใช้งาน เพียงแต่ยังไม่ได้เปิดใช้งานเพียงเท่านั้น โดยทางบริษัทได้เข้ามาดูโกดังตอนปลายปี 2565 ก่อนที่จะทราบว่าโกดังหายไปตอน วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งระยะเวลาที่ไม่ได้มาดูแค่ 2 เดือนแต่โกดังกลับหายไปทั้ง 2 โกดัง โดยการก่อสร้างใช้เงินไป 10 ล้านบาท ซึ่งที่ตำรวจจับไปได้ 2 คน ตนเองก็ยังคิดว่าไม่น่าจะมีแค่ 3 คนเพราะโกดังมันใหญ่มาก และระยะเวลาแค่ 2 เดือน ไม่น่าจะทำได้สำเร็จ ซึ่งน่าจะมีเครื่องจักร และรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้ามาทำการเอาออกไป
โดยหลักๆที่ทางบริษัทติดใจก็คือ คาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คนอย่างแน่นอน น่าจะมีมากกว่านี้ เพราะโรงงานมันใหญ่ ตั้ง 2 โรง รวมทั้งทางเขื่อม ห้องน้ำ แล้วก็ห้องเก็บทินเนอร์ด้านหลังที่ติดกับโรงสองอีก คือมันใหญ่มาก ไม่น่าจะมีแค่สามคนอย่างแน่นอน ก็อยากฝากวอนร้องผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้ช่วยเหลือด้วย เนื่องจากเราเองก็ไม่รู้จักใคร แล้วคดีก็บอกว่าช้าไหม ก็ช้าอยู่นะ เพราะยังตามจับได้ไม่หมดเลย แล้วอีกอย่างวีรกรรมของคนร้ายที่ตนเองไปสอบถามร้ายข้างเคียงมา ก็ทราบว่า กลุ่มคนร้ายมีการนำเครื่องเส้นไหว้เจ้าที่ อาทิเช่น หัวหมู เป็ด ไก่ มาทำการไหว้ก่อนที่จะทำการรื้อถอน แล้วหลังจากที่ทำการรือถอนเสร็จ ก็กลับมาไหว้อีกครั้ง โดยจัดชุดเส้นไหว้มาแบบเดิมเหมือนตอนที่จะเข้ามารื้อ