กรณีการสืบสวนคลี่คลายคดีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี ก่อเหตุอำมหิตวางสารไซยาไนด์เหยื่อนับสิบราย เกี่ยวพันการกู้ยืมเงิน รับจำนำรถ จำนำที่ดิน และวงแชร์ เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ ถูกจับดำเนินคดีข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนรวม 15 คดี ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ขณะที่ “แอมไซยาไนด์” ถูกส่งตัวคุมขังทัณฑสถานหญิงกลางตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 พ.ค. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เผยถึงความคืบหน้ากรณี น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ “แอมไซยาไนด์” วางยาฆ่าชิงทรัพย์ว่า คาดว่าวันที่ 16 พ.ค.จะมีการออกหมายจับ 1 คน มีส่วนช่วยให้คำแนะนำทำลายพยานหลักฐาน ทั้งนี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้นำสำนวนสืบสวนมาประกอบเข้ากับสำนวนการสอบสวนแล้ว สัปดาห์หน้าจะเริ่มสรุปสำนวนในส่วนที่สมบูรณ์ไปยังพนักงานอัยการ ส่วนทั้งสัปดาห์นี้จะดูรายละเอียดรายงานการสืบสวนเพื่อนำเข้าสู่สำนวนการสอบสวนทั้งหมด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนการออกหมายจับเพิ่มเติมกับผู้ใกล้ชิดแอม ตอนนี้กำลังไล่รายละเอียดอีกเล็กน้อย ช่วงบ่ายจะไปสอบปากคำแอมเพิ่มเติมที่ทัณฑสถานหญิงกลางกรุงเทพมหานคร ยืนยันการออกหมายจับไม่ได้ทำตามกระแสสังคมแต่ทำตามพยานหลักฐาน เพราะหากทำตามกระแสสังคม เราสามารถขออนุมัติหมายจับได้แต่ถึงศาลก็จะยกฟ้องทำให้เกิดผลเสียมากกว่า ดังนั้นทุกคดีต้องทำอย่างรอบคอบ สำหรับคนใกล้ชิดแอมที่จะออกหมายจับในเร็วๆนี้ พบความผิดส่วนที่แนะนำและช่วยกันทำลายพยานหลักฐาน ตอนนี้ยังไม่มี หลักฐานไปถึงร่วมกันฆ่า คนใกล้ชิดรายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องในบางคดีเท่านั้น ส่วนกรณีรายการเงิน 78 ล้าน และบัญชีธนาคาร คาดว่าวันพุธจะแล้วเสร็จหมด
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องเอาทั้ง 15 คดีให้จบก่อน ส่วนรายอื่นๆที่เกี่ยวข้องต้องไล่ดำเนินการภายหลัง ส่วนน้องสะใภ้และน้องชายแอมตอนนี้เรียกมาสอบปากคำแล้วยังไม่พบการกระทำความผิด สรุปสั้นๆวันนี้ในส่วนแอมไม่มีปัญหาเพราะพยานหลักฐานมัดแน่น ผู้เกี่ยวข้องพรุ่งนี้จะรายงานให้ทราบต่อไปคาดว่าสุดสัปดาห์นี้เริ่มสรุปไทม์ไลน์ได้ ด้านการแต่งตั้งทนายใหม่ก็ให้เป็นสิทธิ์ของแอม แต่ทนายคนเดิม (น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือทนายพัช) ยังคอยให้คำปรึกษาในฐานะเพื่อนอยู่
อีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดี “แอมไซยาไนด์” วางยาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ อายุ 32 ปี ว่า สอบปากคำพยานบุคคลสอบไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงผลตรวจวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นพยานหลักฐานที่พบเพิ่มเติมจากที่ไปเจอในรถและแคปซูลยา อยู่ระหว่างนำมารวบรวมประกอบสำนวน ส่วนคดีอื่นๆ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะสืบสวนสอบสวน กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งประสานข้อมูลทำงานร่วมกันเพื่อเร่งคลี่คลายคดี จะมีการออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติมหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างดำเนินการ หลังฝ่ายสืบสวนพบพยานหลักฐานว่ามีการยักย้ายถ่ายเทพยานหลักฐาน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นบุคคลใด ขั้นตอนต่อจากนี้ต้องรอให้ฝ่ายสืบสวนที่พบหลักฐานการกระทำผิดเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จากนั้นจะเชิญตัวบุคคลดังกล่าวมาแจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนต่อไป
ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น.พร้อมทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีเดินทางไปที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อสอบสวนแอมเป็นครั้งที่ 3 ในประเด็นที่ยังสงสัยเพิ่มเติม
มีรายงานว่า ครั้งนี้แอมขอกลับคำให้การเป็นรับสารภาพในบางคดี และยังอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติมในเรือนจำ นอกจากนี้ยังต้องการ พบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามี ที่ก่อนหน้าถูกดำเนินคดีใน 3 ข้อหาฐานร่วมกันรับของโจร ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม ทั้ง 2 คนเดินทางเข้าไปในทัณฑสถานหญิงกลางตามคำขอของแอมแล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยอีกครั้งทางโทรศัพท์ว่าแอมประสานผ่านชุดสืบสวนร้องขอให้เข้าไปสอบปากคำด้วยตัวเอง ส่วนจะรับสารภาพหรือไม่ขอเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหาให้ละเอียดก่อน
มีรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า แอมรับสารภาพเพียงพฤติการณ์แต่ยังปฏิเสธข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนในการสอบปากคำครั้งที่ 2 ส่วนวันพรุ่งนี้จะประชุมชุดสืบสวนเพื่อพิจารณาขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นบุคคลใกล้ชิดกับแอม มีพฤติการณ์ช่วยเหลือและทำลายหลักฐาน
ต่อมาเวลา 19.10 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เผยความคืบหน้ากรณี น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอมไซยาไนด์ หลังเข้าไปสอบสวนเพิ่มเติมนานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่า วันนี้แอมยื่นหนังสือผ่านกรมราชทัณฑ์ว่าต้องการพบตนเพื่อรับสารภาพเพิ่มเติมในหลายประเด็น จากการสอบปากคำยังไม่มีการรับสารภาพว่าเป็นผู้ฆ่าทั้ง 14 ศพ แต่รับสารภาพเพิ่มเติมว่าได้นำเสนอยาไซยาไนด์ให้ น.ส.ก้อย ในลักษณะผงบรรจุในซิปล็อก เพื่อให้นำไปทดลองผสมใช้กับยาเสพติด อ้างว่าให้ใช้ในปริมาณเล็กน้อย ยกตัวอย่างว่านายแด้ได้นำไซยาไนด์ใช้กับสารเสพติดเช่นเดียวกันเพื่อใช้เสพและอ้างว่าไซยาไนด์ดังกล่าวก็นำมาจากนายแด้ด้วย ทั้งนี้เป็นเพียงการยอมรับว่าให้ไปทดลองใช้กับยาเสพติด ไม่ได้รับสารภาพว่าให้กินหรือให้ดื่ม ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด การรับสารภาพว่านำไซยาไนด์ไปมอบให้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก จะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในสำนวนว่าตรงกันหรือไม่ ได้บอกให้ไปตั้งสติและเรียบเรียงข้อมูลก่อนที่วันที่ 17 พ.ค. จะเข้าไปสอบปากคำอีกครั้ง