ตำรวจไซเบอร์ เตรียมขยายผลเครือข่ายเว็บพนัน “มาเก๊า 888” หลังบินไปสอบปากคำ “ดิว อริสรา” ถึงไต้หวัน พบมีประโยชน์ทางคดี ได้ข้อมูลความเชื่อมโยงผู้ร่วมกระทำความผิด
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. เปิดเผยหลังจากเดินทางไปสอบปากคำ น.ส.อริสรา ทองบริสุทธิ์ หรือ ดิว ในฐานะผู้ให้ถ้อยคำ หลังจากเป็นผู้เปิดเผยเว็บไซต์พนันออนไลน์ “มาเก๊า 888” ที่ไต้หวัน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา
จากการสอบปากคำ ดิว อริสรา ถือว่าให้การเป็นประโยชน์ในทางการสืบสวนและสอดคล้องกับแนวทางการสืบสวนที่ตำรวจมีอยู่บางส่วนแล้ว โดย ดิว บอกว่า รู้ถึงการทำเว็บพนันออนไลน์ของ นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หรือ เบนซ์ เดม่อน ในช่วงที่คบหากัน ซึ่ง ดิว บอกว่า เบนซ์ ทำธุรกิจมานานกว่า 10 ปี โดยเริ่มจากธุรกิจเล็กๆ และขยายตัวไปจนเป็นธุรกิจในครอบครัวพี่น้อง บ. จากนั้นเมื่อมีรายได้มากขึ้น ก็ได้ขยายเปิดเป็นบริษัทและสถานบันเทิงเพิ่มเติม นอกจากนี้ทาง ดิว อริสา ยังเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ และจะไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ พร้อมทนายความ กรณีถูก นายเบนซ์ ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
การให้ปากคำของ ดิว อริสรา ถือว่าเป็นพลเมืองดีที่ให้ข้อมูลกับตำรวจ โดยยืนยันว่ายังไม่พบข้อมูลเชื่อมโยงการร่วมกระทำผิดกับ นายเบนซ์ แต่อย่างใด ส่วนหลังจากที่ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องมาแล้ว จากนี้จะประชุมร่วมกับชุดสืบสวนในเวลา 14.00 น. ของวันเดียวกันนี้ เพื่อพิจารณาขยายผลถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้นก็เตรียมพิจารณาถึงหลักฐาน ความเชื่อมโยงต่างๆ ว่าจะสามารถขอศาลออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมได้อีกบ้าง โดยเฉพาะในกลุ่มพี่น้อง บ. ที่พบความเชื่อมโยงอย่างชัดเจน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน
ขณะที่การสอบปากคำ ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร หรือ ผู้กองไบร์ท ที่ผ่านมาแม้ว่าจะยังปฏิเสธ แต่หากหลังจากนี้พบว่าเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินคดี เช่นเดียวกับนายบิ๊ก และ นายบอส ที่ยังอยู่ในต่างประเทศ ส่วน นายเบนซ์ ที่ถูกจับได้แล้วก็ยังให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มีว่าจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้ ตำรวจขอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้แล้ว 55 คน ซึ่งตำรวจจับผู้ต้องหาหลักได้แล้ว 8 คน ส่วนกลุ่มบัญชีม้าก็สามารถจับได้แล้วบางส่วน และหลังจากนี้ก็เชื่อว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้เพิ่มเติมอีก
ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เรียกประชุมตำรวจระดับสารวัตร-รองผู้กำกับ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งในสังกัด บช.สอท. เพื่อมอบนโยบายการทำงาน โดยเน้นย้ำเรื่องการทำงานด้วยความสุจริต เนื่องจากอาชญากรรมทางไซเบอร์มีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และเป็นนโยบายของผู้บังคับบัญชาให้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยทาง สอท. ก็มีมาตรการตรวจสอบการทำงานของตำรวจระดับสารวัตรถึงผู้บังคับการ หากทำงานบกพร่องก็มีแนวทางการลงโทษทางปกครอง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวที่ตำรวจ บช.สอท. เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์กับเว็บพนันออนไลน์ พล.ต.ท. วรวัฒน์ ยอมรับว่ามีเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ามีการปราบปรามเว็บไซต์พนัน และหลังจากนี้ต้องไม่มี หากพบจะต้องดำเนินการเด็ดขาดทางวินัยและอาญา.
