ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลดใจของสังคมไทยอย่างยิ่ง เมื่อต้องเจอเหตุการณ์ซ้ำรอย ซ้ำซาก ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก กับคดีอุบัติเหตุบนท้องถนน และหลายครั้งหลายหน ผู้ก่อเหตุก็เป็นเพียง “เยาวชน” ผู้ต้องหาเยาวชนวัยคึกคะนอง ที่พ่อแม่ถอยรถยนต์ หรือ จักรยานยนต์ออกมาขับขี่
ล่าสุดเป็นคราวเคราะห์ร้ายของ “ธนพล แก้วมูล” หรือ เต้ อายุ 24 ปี บัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอัน 1จากสถาบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่กำลังมีอนาคตไกล ที่กำลังสานฝันตัวเองไกลถึง “ด็อกเตอร์” คนหนึ่งของเมืองไทย แต่ต้องมาจบชีวิต เพราะ เยาวชนวัย 15 ปี ดีกรี นักกีฬาเยาวชนทีมชาติ ขับรถหรู BMW ฝ่าไฟแดงพุ่งชนที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ประตู 1 ก่อนถึงประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา จนเสียชีวิตคาที
กลายเป็นฝันร้ายต่อพ่อแม่ ของครอบครัว “แก้วมูล” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่กำลังเป็นที่พึ่งของครอบครัว ต้องด่วนจากไปเพราะอุบัติเหตุ ทำให้เจ้าตำรวจจะแจ้งข้อหากับเยาวชนผู้ขับขี่คนนี้แล้ว 4 ข้อหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจร, ขับรถไม่มีใบอนุญาต และขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
สถิติปี 2565 สุดอึ้ง! 9 เดือนเซ่น 1,053 ศพ! ฝีมือนักขับขี่ อายุไม่ถึง 18 ปี
จากข้อมูล ผู้มาใช้สิทธิประกันภัย พ.ร.บ.กับ บริษัทคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พบว่า อุบัติเหตุจราจรจากรถเป็นผู้ขับขี่อายุน้อยกว่า 18 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มกราคม 2565 พบว่า อุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ เสียชีวิต 940 ศพ บาดเจ็บ 91,280 คน สูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพ 95 คน รถยนต์ (อื่นๆ) เสียชีวิต 113 ศพ บาดเจ็บ 4,507 คน สูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพ 8 คน รวม เสียชีวิต 1,053 ศพ บาดเจ็บ 95,787 คน สูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพ 103 คน โดย ตัวเลขดังกล่าว ได้รวมผู้เสียชีวิตจากผู้ขับขี่เองและเหยื่อบนท้องถนนด้วย.
แนะครอบครัวผู้สูญเสีย ต้อง “ฟ้องแพ่ง-อาญา” พร้อมกัน
นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาข้อหาที่พนักงานสอบสวนตั้งกับตัวผู้กระทำผิด จะไม่มีการกล่าวถึง “พ่อแม่” เลย หากไปเทียบกับ พ.ร.บ.จราจรฯ ทางตำรวจมีการปรับเพื่อแก้ปัญหาเรื่อง “เด็กแว้น” เด็กเหล่านี้ไปขับรถ จยย. ชนคนอื่น พ่อแม่จะมีความผิดไปด้วย เช่น การทำทัณฑ์บน ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็น “ช่องว่าง” ที่มองเห็น กับกรณี เด็กอายุ 15 ปี ขับรถชนคนอื่นจนเสียชีวิตโดยที่พ่อแม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย อีก 1 ประเด็นที่สำคัญคือ เวลามีเหตุลักษณะนี้ ตำรวจจะบอกให้ญาติเหยื่อไปฟ้องแพ่ง แต่ปัญหาของการ “ฟ้องแพ่ง” จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ยาวนาน อีกท้งยังใช้ “เทคนิค” ทางกฎหมาย คือ…เมื่อจำเลย ให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจะสำนวนไปอัยการเพื่อฟ้องศาลทันที
“สิ่งที่เกิดขึ้น เราต้องทำให้สังคมรับรู้ว่า การที่พ่อแม่ปล่อยให้ลูก ออกมาขับรถยนต์ หรือ จักรยานยนต์ มาชนคนตาย เราต้องเอาผิดพ่อแม่ และต้องฟ้องแพ่งร่วมไปกับคดีอาญาไปด้วย”
ข้อสังเกตสำคัญคือ… เวลาเกิดเหตุทีไร “พนักงานสอบสวน” มักไม่เอาผิดกับพ่อแม่ เฉกเช่นเดียวกับเคส “หมอกระต่าย” ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นกับเยาวชนอายุ 15 ปี ก็ตั้งข้อหาคล้ายกัน คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฝ่าสัญญาณไฟจราจร และ ไม่มีใบขับขี่ ซึ่งข้อหาที่ 2 และ 3 มีโทษปรับเท่านั้น… ซึ่งค่าปรับ รวมกันแค่ 3,000 บาท (ฝ่าสัญญาณไฟ ปรับ 2,000 บาท ไม่มีใบขับขี่ ปรับ 1,000 บาท) ข้อหาที่หนักที่สุด คือ มาตรา 291 แต่พอเห็นว่าเป็น “เยาวชน” ศาลจะเมตตา ให้ “รอลงอาญา”
วิธีคำนวณการเยียวยา บางเคสในอดีต ได้แค่กระดาษแผ่นเดียว
นพ.ธนะพงศ์ กล่าวถึงการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ว่า ส่วนมากจะยึดตามหลักการ “ฐานานุรูป” (ตามสมควรแก่ฐานะ ตำแหน่ง หรือสถานการณ์) โดยผู้กระทำผิดต้องเยียวยา ให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย เพื่อตอบคำถามสังคมให้ได้ เฉกเช่นเดียวกับเคส “หมอกระต่าย” ที่มีการเรียกค่าเสียหาย 72 ล้านบาท เพราะจากการคำนวณของทีมทนาย “หมอกระต่าย” หากคุณหมอยังมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 60 ปี จะหารายได้เท่านี้…
ซึ่งกรณี “น้องเต้” ความจริงตั้งใจจะไปเรียนต่อปริญญาโท-ปริญญาเอก อาจจะกลับมาทำงานและได้เงินสูง แต่หากนับเฉพาะปริญญาตรี และทำงานถึง 60 ปี เงินเดือนวิศวกร เรตอยู่ที่ 30,000 บาท หากทำงานถึง อายุ 60 ปี จะได้เงินเท่าไร.. (น้องเต้ อายุ 24 ปี มีอายุงาน 36 ปี) ซึ่งก็คิดเป็นเงินหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ การคำนวณขึ้นอยู่กับอาชีพด้วย เพราะบางอาชีพ อายุงานอาจจะไม่ถึงอายุ 60 ปีก็ได้
“ที่ผ่านมา หลายๆ เคส ในอดีต การเยียวยามักทำได้ยาก บางเคส แม้ศาลจะตัดสินไปแล้วว่าให้เยียวยา ถึงฎีกา และศาลสั่งต้องจ่าย แต่… ทาง “จำเลย” ก็มักอ้างว่า ไม่มีเงิน บางเคสครอบครัวเหยื่อไม่ได้อะไรเลย นอกจาก กระดาษที่ระบุคำพิพากษา…”
สิ่งที่เกิดขึ้น มักจะมาตกม้าตายในกระบวนการตามสืบทรัพย์บังคับคดี เมื่อถึงฎีกา ศาลมีคำสั่งให้เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่จำเลยก็บอกว่าไม่มีเงินหรือทรัพย์สินที่จะจ่าย ยกเว้นบางกรณีที่พลังโซเชียลฯ ได้ช่วยกันสืบทรัพย์ด้วยตัวเอง จนบางเคสต้องจ่าย
“กรณี น้องเต้ ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะเป็นคนที่เรียนเก่ง และกำลังจะไปเรียนต่อจนถึงชั้นสูงสุด เรียกว่า ประเทศชาติก็เสียด็อกเตอร์ไปหนึ่งคน”
เมื่อถามว่า สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้คืออะไร นพ.ธนะพงศ์ บอกว่า ในเชิงป้องกัน เราควรจะมีระบบการจัดการที่แข็งแรงกว่านี้ เราไม่ควรปล่อยให้คนที่ “ไม่พร้อม” อยู่บนถนน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ จักรยานยนต์ จะว่าไป อายุ 15 ปีไม่ควรอนุญาตด้วยซ้ำ ควรที่จะอายุ 18 ปีขึ้นไป